"ดร.กนก"เตือนอย่าควบคุมเสรีภาพ นร.ด้วยการจับกุม

2020-08-20 11:15:45

"ดร.กนก"เตือนอย่าควบคุมเสรีภาพ นร.ด้วยการจับกุม

Advertisement

"ดร.กนก" เตือนอย่าควบคุมเสรีภาพของ นร. ด้วยการจับกุม หวั่นรัฐบาลถูกโยงใช้อำนาจจัดการปัญหา 


เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว "กนก วงษ์ตระหง่าน" กรณีการแสดงออกทางการเมืองของนักเรียนที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ ว่า ปฏิกิริยาของนักเรียนที่จะเดินทางไปผูกโบว์สีขาวที่กระทรวงศึกษาธิการ เป็นเรื่องที่เราควรต้องมาคิดให้ตกผลึกกันว่า การแสดงออกในรูปแบบนี้สะท้อนอะไร คงต้องมาเริ่มที่การให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่ว่า ให้ตำรวจเข้าไปจับกุมนักเรียนในสถานศึกษาได้ ถ้านักเรียนทำผิดกฎหมาย เพราะไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย” ผลสะท้อนจากการสื่อสารเช่นนี้ ทำให้คนส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีจำนวนมากมีความไม่เห็นด้วย นั่นรวมถึงตนที่ไม่เห็นด้วยกับการให้ตำรวจเข้าไปจับกุมนักเรียนที่ใช้เสรีภาพในการแสดงออก แม้ว่าเนื้อหาสาระหรือพฤติกรรมที่สื่อสารออกมาจะล่อแหลมต่อการขัดต่อกฎหมายก็ตาม

ศ.ดร.กนก ระบุอีกว่า ขอย้ำว่าตนไม่ได้สนับสนุนให้นักเรียนทำผิดกฎหมาย เพียงแต่เห็นว่าถ้านักเรียนอาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมายด้วยการแสดงออกดังกล่าว ก็ควรเป็นหน้าที่ของครูและผู้ปกครองที่ต้องรับฟังเหตุผลของนักเรียน และพยายามให้เหตุผลในอีกด้านหนึ่ง เพื่อสร้างความเข้าใจในแต่ละประเด็นร่วมกัน ซึ่งจะนำไปสู่การเรียนรู้ของตัวนักเรียนเองในการปรับเปลี่ยนการแสดงออกนั้นๆ โดยที่ไม่ต้องบังคับด้วยกฎหมาย กติกา หรือมาตรการต่างๆ เพราะหลักการพื้นฐานทางการศึกษานั้น คือ การพยายามดึงศักยภาพของนักเรียนออกมา เพื่อที่นักเรียนจะสามารถนำศักยภาพดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมในด้านที่ตนมีความสนใจและเชี่ยวชาญ ซึ่งการจะดึงศักยภาพดังกล่าวออกมาได้ เงื่อนไขที่สำคัญ คือ สภาพแวดล้อมที่มอบเสรีภาพต่อกระบวนการคิด และพฤติกรรมในการแสดงออกของนักเรียน ดังนั้นการสร้างบรรยากาศแห่งเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออกจึงเป็นหัวใจในการพัฒนาคุณภาพของนักเรียน




ศ.ดร.กนก ระบุเพิ่มเติมว่า ยาวนานกว่า 10 ปีที่สังคมไทยมีความวิตกกังวลใจในประเด็นที่ว่านักเรียนไทยคิดไม่เป็น สาเหตุส่วนหนึ่งย่อมมาจากตัวนักเรียนเอง และครูก็ไม่อาจปัดความรับผิดชอบในการร่วมสร้างปัญหานี้ไปได้ เมื่อต่างร่วมกันสร้างสภาพแวดล้อมแห่งอำนาจ ภายในห้องเรียนให้เกิดขึ้น เมื่อครูได้รับการสถาปนาให้เป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดในทุกๆ คำถามที่เกิดขึ้นสำหรับห้องเรียน การพยายามคิดอะไรให้ไปไกลจากที่ครูกำหนดจึงกลายเป็นเรื่องต้องห้าม นักเรียนจึงทำได้แค่การจำในสิ่งที่ครูบอก ครูสอน และครูแนะนำ เพื่อที่จะทำให้ได้รับคะแนนสูงๆ สภาพแวดล้อมแห่งการใช้อำนาจจึงเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และถลำลึกจนทำให้เด็กไทยไม่กล้าคิด ไม่กล้าตัดสินใจ และคิดได้แค่สิ่งที่ได้รับจากครู นั่นก็คือไม่ต้องคิดอะไรด้วยตัวเอง

ศ.ดร.กนก ระบุทิ้งท้ายว่า เมื่อสภาพแวดล้อมในการเรียนการสอนมีลักษณะเช่นนี้ การอนุญาตให้ตำรวจเข้าไปจับกุมนักเรียน (ที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมาย) ในชั้นเรียน ยิ่งตอกย้ำถึงวัฒนธรรมการใช้อำนาจเพื่อจัดการกับปัญหามากขึ้น และด้วยบริบทสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ที่ต้องการความยืดหยุ่นทางความคิด และการผ่อนคลายความกดดันทางอารมณ์ ยิ่งไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง อย่ากดทับ “ศักยภาพ” ของนักเรียนเลยครับ ผมเชื่อว่า ระบบการศึกษาที่ดีมีหนทางในการจัดการกับปัญหานี้ และพัฒนาจนกลายเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถนำไปใช้ ให้ชีวิตดำเนินต่อไปอย่างปลอดภัยได้ในอนาคต ไม่มีอะไรที่สายเกินจะแก้ไข และไม่มีสิ่งใดที่เสียจนไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ได้