ศึกษากันไปก่อน "แต้ว" ปัดเปิดตัว "ไฮโซณัย"

เรายังไม่พร้อมเปิดตัวด้วยมั้ย ?
เราค่อยเรียนรู้ค่ะ มันไม่ใช่อีเวนต์ค่ะ (หัวเราะ) ที่จะขนาดเปิดตัวแกรนด์โอเพนนิ่งค่ะ ถามว่าเขินมั้ย ก็ไม่ถึงกับเขินแต่ทำไมจะต้องหาวาระกับเรื่องนี้ด้วย(ยิ้ม)

เวลาไปทานข้าวถ้าเราถ่ายติดพี่เค้า เรากังวลมั้ยว่าจะลงดีหรือไม่ลงดี ?
ไม่นะคะ ก็เป็นคนที่เข้ามาในชีวิตและไม่ต้องพะวงว่าจะปิดหรือไม่ปิด เราก็รู้สึกโอเคค่ะ



ตอนเราเศร้าก็มีไฮโซณัยอยู่ข้างกายตลอด ?
ก็มีหลายคนค่ะที่อยู่รอบๆ ทั้งพี่ๆ ในวงการ พี่ช่างแต่งหน้า พี่ต้น เจมส์จิด้วย เพื่อนๆ นักแสดงที่มาเป็นกำลังใจให้ เราก็รู้สึกซาบซึ้งที่มาช่วยเราตั้งแต่วันแรก

วันนั้นที่ไปทานข้าวกับไฮโซณัย เป็นการทานข้าวพร้อมคุณแม่เราครั้งแรกมั้ย ?
ไม่ค่ะ หลายรอบแล้วค่ะ

ความสัมพันธ์เป็นยังไง ?
ก็ดีค่ะ เหมือนเราก็ต้องค่อยๆ รู้จักกันไปนะคะ ทุกอย่างต้องใช้เวลาค่ะ ก็เป็นเพื่อนที่พยายามรู้จักกันมากขึ้น เรียนรู้กัน



เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไรใช่มั้ย เวลามีภาพหลุดอะไร ?
ไม่นะคะ

ผ่านไฟเขียวคุณแม่และพี่สาวแล้วด้วย ?
ก็เป็นคนที่เรารู้สึกหวังดีด้วยและเราก็เชื่อว่าเค้าก็หวังดีกับเรา เราก็อยากพาไปหาคนที่เรารู้จัก เค้าก็เหมือนกัน คำว่าไฟเขียวจะบอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ได้ หรือจะใช่ก็ไม่ได้ คืออย่างที่เราเป็นแฟนกับพี่ต้นตลอดเวลา เราก็ยังอยู่ในสายตาคุณพ่อคุณแม่ตลอด ยังโดนว่าโดนติ เราก็เลยไม่รู้ว่าอะไรคือไฟเขียว เพราะเราจะคอยปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ตลอดค่ะ

ทางบ้านมีคอมเมนต์อะไรบ้างไหม ?
ไม่มีนะคะ เราก็เจอกันนอกรอบปกติ



คนชื่นชมต้นว่าดูแลเราและครอบครัวเราดีมาก ?
คือเราก็มองเค้าเป็นคนในครอบครัวอยู่แล้วค่ะ เวลาพี่เต๋ามีงานก็จะชวนพี่ต้นมาด้วย เราก็รู้สึกอยากให้เค้ามา เพราะเค้าก็ผูกพันกับคุณพ่อมาก คุณพ่อก็เห็นเค้ามาตั้งแต่เด็กๆ เหมือนกันค่ะ เค้าก็ใาด้วยความเต็มใจตั้งใจมาทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนคุณพ่อค่ะ เรารู้สึกว่าเค้าเหมือนคนในครอบครัว เค้าเป็นที่หวังดีกับเราและเราก็หวังดีกับเค้าค่ะ

ก่อนหน้านี้เราก็มีดราม่าแต่ก็ยังไม่ได้ออกมาพูดอะไร ?
ค่ะ แต้วก็เห็นนะคะ แต่ไม่ได้เอามาคิดอะไรมาก แต้วเข้าใจว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการจะพูด แต้วก็คิดว่ามันเป็นการตัดสินใจของเรา กว่าจะมาถึงวันนี้มันก็ใช้เวลาทั้งตอนที่มีปัญหาหรือใช้เวลาในการแก้ไขมาในระยะนึงจนถึงวันนี้ ถามว่าเสียใจมั้ยก็เสียใจ แต่ก็ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องความสุขความทุกข์ที่เราจะต้องก้าวออกมาให้ได้ ทุกข์ก็อย่าทุกข์นาน ทุกข์มากที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่เราเสียคุณพ่อ เราก็ต้องรีบมูฟออนออกมา เพราะเราก็ต้องรีบกลับมามีชีวิตเหมือนเดิม หรือเวลาที่เรามีความสุขมากๆก็แย่าไปยึดติด ก็พยายามอยู่ตอนนี้เพราะไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ ต้องมีสติ ใครจะพูดยังไงแต้วก็ไม่ไปตัดสิน เพราะแต้วก็ไม่สามารถห้ามใครได้และไม่มีใครสามารถห้ามแต้วได้เหมือนกัน เพราะมันคือการตัดสินใจในชีวิตของเรา และต้องรับผลกระทบอะไรเองค่ะ



อึดอัดมั้ยเพราะคนคอมเมนต์ก็คอมเมนต์แต่เรื่องเดิมๆ ?
ไม่อึดอัดเลยค่ะ เราก็รู้สึกว่าพูดได้เต็มที่ ไม่อะไรค่ะ เราก็ใช้ชีวิตของเรา สิ่งที่ทำวันนี้ก็จะไปมีผลในอนาคต คำพูดของใครก็ไม่มีผลกระทบกับเรา เราแคร์คนข้างๆเรา ไม่ไม่ทำให้คนผิดใจกับการตัดสินใจของเราก็พอแล้วค่ะ

คนก็พูดกันว่าสุดท้ายดาราก็คบไฮโซ ?
มันก็เป็นเหมือนคำสรุปสั้นๆ แต่แต้วว่ามันมองตื้นไปเนอะ กว่าจะผ่านมาวันนี้เราผ่านมาเป็นสิบปี มันผ่านการแก้ไขและไม่แก้ไขมาเยอะมาก แต้วว่าการตัดสินใจแบบนั้นมันตื้นไป อย่างเรื่องคำว่าไฮโซแต้วก็ไม่รู้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ยังไง คนที่เขาถูกเรียกจะชอบหรือไม่ชอบอะไรอย่างเนี้ย แต่ถ้าคนที่ไม่ชอบเค้าก็จะรู้สึกถึงคำจำกัดความแค่คำนี้ เค้าอาจจะอยากถูกมองเป็นอย่างอื่นหรือเปล่าในสิ่งที่เค้าทำ แต่ถ้าคนชอบแต้วก็ไม่แตะอะไรค่ะ



รู้สึกยังไงที่คนจับตามอง ?
ไม่รู้ค่ะ แต้วก็ใช้ชีวิตของแต้ว ก็บาลานซ์ให้ทุกคนแฮปปี้ ก็ไม่อยากให้ใครไม่แฮปปี้ค่ะ