เปิดปฏิบัติการ"สยบไพรี"บุกค้น จ.กระบี่ สยบ"นักค้ายา"

2020-08-18 11:40:50

เปิดปฏิบัติการ"สยบไพรี"บุกค้น จ.กระบี่ สยบ"นักค้ายา"

Advertisement

ตร.ปราบปรามยาเสพติด เปิดปฏิบัติการสยบไพรี ลงพื้นที่ตรวจค้น 18 จุด จ.กระบี่ ก่อนจับกุม "พ่อค้ายาเสพติด"

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามเสพติด เปิดปฏิบัติการยุทธการสยบไพรีกระบี่ร่มเย็น ครั้งที่ 2 โดยเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายรวม 18 จุด เพื่อกวาดล้างยาเสพติด ซึ่งส่วนใหญ่พบว่าเป้าหมายจะอยู่ในชุมชนที่มีประวัติในการเสพยา และการค้ายาเสพติดรายย่อย โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งใน ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านของ นายพิเชษฐ์ ภารา อายุ 41 ปี บุคคลตามหมายจับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ระหว่างเข้าตรวจค้น นายพิเชษฐ์ ไม่ยอมเปิดประตู เจ้าหน้าที่จึงเชิญแม่ของนายพิเชษฐ์ ให้มาช่วยเกลี้ยกล่อม ใช้เวลานานกว่า 20 นาที นายพิเชษฐ์ จึงยอมเปิดประตู พร้อมชูมือยอมจำนน จากนั้นตำรวจปราบปรามยาเสพติด จึงอ่านหมายจับเก่อนเข้าควบคุมตัว






หลังจับกุม นายพิเชษฐ์ ยังคงปฎิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนที่ไม่ยอมเปิดประตูบ้านตั้งแต่แรกนั้น เพราะขึ้นไปซ่อนตัวบนฝ้าเพดานเนื่องจากตกใจเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย โดยยอมรับว่าเมื่อ 5-6 ปี ก่อนเคยทำงานในโรงแรม และเสพยาเสพติด แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานานแล้ว






จากนั้นมีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ยังเข้าจับกุม นายสุวรรณสรรค์ เกกินะ หรือสัน วัย 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา รัชดาภิเษก ในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเมื่อปี 2562 โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งภายในชุมชนกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ ขณะที่อีกหนึ่งจุดตรวจค้น พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พร้อมด้วย พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการ จ.กระบี่ ลงพื้นที่ชุมชนหนองทะเล ก่อนจับกุมสามีภรรยา คือ นายปรีชา พรหมราช อายุ 45 ปี และนางอรอนงค์ หยังกุล อายุ 40 ปี ในพื้นที่ชุมชน ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ผู้ต้องหาตามหมายจับมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต




หลังจับกุม พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับวันนี้ เป็นผู้ค้ารายย่อยที่รับยาเสพติดมาจากเครือข่าย แล้วนำมาจำหน่ายให้กับคนในชุมชน แม้ว่าหลายคนจะให้การปฎิเสธ แต่ยืนยันว่ามีพยานหลักฐานศาลจึงอนุมัติออกหมายจับ ซึ่งหากพยานหลักฐานไม่ชัดเจนหรือไม่เพียงพอ ศาลจะไม่อนุมัติออกหมายจับอย่างแน่นอน สำหรับการเข้าตรวจค้นเป้าหมายสำคัญในครั้งนี้ มาจากการขยายผลหลังตรวจยึดพัสดุที่ส่งผ่านทางไปรษณีย์ซึ่งมียาบ้ากว่า 36,000 เม็ด และไอซ์ 2 กิโลกรัม เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อต้องการให้ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ปลอดยาเสพติดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์