เหตุปะทะ 7 ศพยึดปืน 9 กระบอก กอ.รมน.แสดงความเสียใจแม้ใช้การเจรจาไร้ผลแต่ต้องยึดกฎหมาย
วันที่ 16 ส.ค. หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงได้เข้าไปเคลียร์พื้นที่เหตุปะทะกลางทุ่งนา บ้านบือแนจือแล ม.2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ในเบื้องต้นนั้นพบศพคนร้าย 1 ราย และล่าสุด หลังจากที่มีการกระจายวงล้อมในการตรวจค้นและตรวจสอบบริเวณทุ่งนา ปรากฏว่าพบศพคนร้ายเพิ่มอีก 2 ราย รวมในวันนี้จากการปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 14 – 16 ส.ค. คนร้ายเสียชีวิต จำนวน 7 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการประสานหน่วยที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือศพของคนร้ายทั้ง 3 รายเพื่อตรวจสอบว่าเป็นใคร และนอกจากนี้แล้วยังได้ยึดอาวุธปืน เอ็ม 16 และ อาก้า ไว้ตรวจสอบที่มาและเคยนำไปก่อเหตุที่ใดบ้าง
พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 เปิดเผยกรณีเหตุปะทะในพื้นที่ ม.2 ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ว่า แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับเน้นย้ำการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ให้ใช้ความระมัดระวังและพยายามที่จะบังคับใช้กฎหมายเพื่อนำคนผิดมาลงโทษ แต่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความอยากลำบากเนื่องจากพื้นที่ที่คนร้ายหลบซ่อนตัวเป็นป่าละเมาะและทุ่งนาบริเวณกว้าง วันแรกและวันที่สองได้มีการเจรจาโดยการนำผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นมาเกลี้ยกล่อมหลายรอบ แต่คนร้ายใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จนนำไปสู่การวิสามัญ และล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายเสียชีวิตทั้งหมด 7 คนและตรวจยึดอาวุธได้ จำนวน 9 กระบอก ในจำนวนนี้เป็นอาวุธสงคราม 5 กระบอก มีทั้ง เอ็ม 16 และ อาก้า ปืนพก จำนวน 4 กระบอก ในนามของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ซึ่งเป็นการเสียชีวิตที่เจ้าหน้าที่ไม่อยากให้เกิด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก แต่คนร้ายเลือกที่จะใช้ความรุนแรงตอบโต้ ซึ่งทางแม่ทัพขอบคุณและชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการปฏิบัติครั้งนี้ โดยเฉพาะทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นาย
จากการตรวจฐานปฏิบัติการณ์ของคนร้ายที่ยึดมาได้ตั้งแต่วันแรกนั้น น่าจะใช้มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนคาดว่าคนร้ายกลุ่มนี้น่าจะวางแผนเตรียมการก่อเหตุขนาดใหญ่ ตามที่เคยแจ้งเตือนมาก่อนหน้านี้ ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชันสูตรเบื้องต้น และจะนำศพไปที่โรงพยาบาล เพื่อส่งศพให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ส่วนวัตถุพยานทั้งหมดที่ยึดได้นั้น ทาง ผบช.ภาค 9 ได้สั่งการพนักงานสอบสวนทุกคนเก็บหลักฐานอย่างละเอียด สิ่งที่สำคัญทางแม่ทัพเน้นย้ำให้ใช้งานมวลชนสร้างความเข้าใจต่อประชาชนที่อยู่พื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งสั่งการให้นายอำเภอยะรังเป็นหน่วยหลักในการสำรวจความเสียหายในการปฏิบัติในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่พร้อมจะดูแลเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายจากการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ สุดท้ายการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนใช้ความระมัดระวังกันเต็มที่ แต่คนร้ายเลือกที่จะใช้ความรุนแรงในการตอบโต้จนนำไปสู่การสูญเสีย ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมเปิดโอกาสให้คนที่เห็นต่างจากรัฐที่ต้องการยุติความรุนแรงขอให้เข้ามารายงานตัวแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่รับรองว่าทุกคนจะได้รับความยุติธรรมแน่นอน