“ษา วรรณษา” เคลียร์ดราม่าสามีเก่าไม่ส่งเสียลูก พร้อมเผยเหตุที่รักครั้งใหม่ แต่งงานไม่ได้ ?!

2020-08-16 10:45:22

“ษา วรรณษา” เคลียร์ดราม่าสามีเก่าไม่ส่งเสียลูก พร้อมเผยเหตุที่รักครั้งใหม่ แต่งงานไม่ได้ ?!

Advertisement

แม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง “ษา วรรณษา” เคลียร์ปมไม่ยอมให้สามีเก่าส่งค่าเลี้ยงดูลูกชาย พร้อมเผยความรักครั้งใหม่สุดไฉไลแต่แต่งงานไม่ได้ ?!

เรียกได้ว่ายังไม่หยุดกับกระแสคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวตั้งท้อง ซึ่งจะใช่ “ษา วรรณษา ทองวิเศษ” หรือเปล่าที่ท้องกลางกองถ่ายนั้น ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show ทางช่อง one31 โดยมี “พีเค ปิยะวัฒน์” และ “ชมพู่ ก่อนบ่าย” ทำหน้าที่เป็นพิธีกร แถมเจ้าตัวยังควงหนุ่มหล่อ หน้าตาดี มาอวดสื่อพร้อมกับเผยความรักครั้งใหม่ให้ได้ฟังอีกด้วย






มีข่าวว่าแม่เลี้ยงเดี่ยวท้องกลางกองถ่าย ใช่ยูหรือเปล่า ?

ษา :
“ไม่มี ไม่ได้ป่อง ก็มีคนมาถามเยอะอยู่เหมือนกัน เราก็บอกว่าไม่ใช่ๆ”




ก่อนหน้านี้ษาออกมาบอกว่าลูกเป็นเด็กพิเศษหรอ ?

ษา :
“ออทิสติกค่ะ เรารู้ตั้งแต่ขวบแรก น่าจะเป็นความโชคดีของษาแหละ เพราะว่าถ้าจะรู้อาการจะต้องรู้ตั้งแต่ขวบแรกเลย คือเราเป็นคนช่างสังเกต เมื่อก่อนที่บ้านก็เลี้ยงเด็กด้วย มันก็เลยรู้สึกว่าเด็กของเราผิดปกติ”

ตอนนี้หลานเป็นยังไงบ้าง ?



ษา :
“โอเคค่ะ ปกติทั่วไป เรียนโรงเรียนทั่วไป ไม่เคยให้ลูกไปเรียนโรงเรียนพิเศษ อยู่กับคนปกติ เพราะสุดท้ายแล้วพอเราไม่อยู่เขาก็ต้องอยู่กับคนปกติ”




มันมีกระแสไปโจมตีพ่อของลูกในเรื่องไม่ส่งเสีย ?

ษา :
“เราอย่าไปว่าเขาทางนู้นว่าเขาไม่ส่งเสีย จริงๆ คุยกันในประโยคที่ว่าถ้าเกิดว่าษามีอะไรษาจะบอกพี่เอง ถ้าเกิดษาไม่ไหว ษาจะไปขอความช่วยเหลือเอง ตอนนี้ษาโอเค แต่คราวนี้ด้วยความที่นิสัยของเขา เขาเป็นคนตอบคำถามนักข่าวไม่เก่ง เรารู้ส่วนตัวอยู่แล้ว พอนักข่าวไปถามว่ามีการส่งเสียไหม เขาก็บอกว่ายังนะ ษาไม่ได้บอกอะไร เหมือนถ้ามีมาก็จะให้ความช่วยเหลือ ทุกคนก็ไปบูลลี่เขาว่าทำไมต้องให้ผู้หญิงเอ่ยปากขอ จริงๆ อย่าไปว่าเขาเลยค่ะ เพราะมันเป็นแค่คำพูดประโยคแค่นั้น ซึ่งษาก็โอเคอยู่ ณ ตอนนี้ แล้วบางครั้งผลการเรียนลูกออก หรือเขามีกิจการของเขา เช่นทำเสื้อของวงเขา แมสก์ ตอนโควิด เขาก็ส่งมาให้ลูก ษาก็ให้ “เซย์เดย์” ใส่ทั้งเสื้อ ใส่ทั้งแมสก์แล้วถ่ายรูปส่งไปให้เขา เพื่อให้เขาได้ทำธุรกิจ”



แสดงว่ากับคุณพ่อของ “เซย์เดย์” ติดต่ออยู่ตลอด ?

ษา :
“จะติดต่อเฉพาะเรื่องลูก หมายถึงผลการเรียนลูกออกจะส่งให้ดูตลอด แล้วก็จะอัพเดตรูปลูกให้ดูตลอด”





แต่ทำไมถึงเลือกที่จะไม่ขอความช่วยเหลือ ?



ษา :
“ษาไม่ได้คิดว่าเราจำเป็นต้องขอเงินผู้ชาย หรือว่าให้เขามารับผิดชอบอะไรตรงนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ คือษารู้สึกว่าตรงนี้ษาแฮปปี้แล้ว ษาไม่ได้ต้องการอะไร แต่ถ้าสมมติเขาจะเข้ามาช่วยเหลือมันจะต้องมีจุกจิก ษาบอกหยุด ไม่เอา ษาเอาแค่นี้พอแล้ว ษาพอใจ”

14 ปีที่ผ่านมาคุณพ่อ คุณลูกมีโอกาสคุย เจอกันบ่อยไหม ?

ษา :
“เจอช่วงตอนเด็กที่เอาไปที่บ้าน แล้วมาเจอช่วงตอนโตซึ่งเขาก็เขินๆ กัน นั่ง นอนตัก เราก็ปล่อยช่วงเวลานั้นไป”

จำได้ตอนนั้นพี่ษาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมากๆ แล้วมีข่าวคบกับพ่อของลูก ตอนนั้นรู้สึกเสียดายงานในวงการไหม ?

ษา :
“มันเป็นการตัดสินใจของเรา เพราะฉะนั้นก็เคารพการตัดสินใจของตัวเอง พอมันผิดหวังก็เคารพการตัดสินใจของตัวเอง คือษาเดินทางสายกลาง อะไรที่เรารู้สึกว่าทำแล้วแฮปปี้ มีความสุข เราก็ทำ แต่ถ้ารู้สึกว่ามันกระทบต่อหลายๆ คน เราก็ต้องออกมาขอโทษและรับผิดชอบกันต่อไป“





ตอนนั้นที่เราพลาดไปแล้วเสียใจหรือว่าโกรธ ?

ษา :
“มันทั้งสองอย่าง เสียใจที่ทำให้แม่ผิดหวัง โกรธก็คือโกรธตัวเองทำไมใจร้อนขนาดนั้น เหมือนทุกคนบูลลี่ๆ มา ไม่ควรคบกับคนนี้ไม่ควรแต่ง เรารู้สึกว่าทำไมฉันทำไม่ได้ก็มันชีวิตฉัน ณ ตอนนั้นเมื่อ 20 กว่าๆ ชีวิตฉัน ฉันเลือกเองดีกว่าคนอื่นมาเลือกแล้วมันไม่ดี”

แสดงว่าษาเลือกเดินออกมาเอง ?

ษา :
“ใช่ค่ะ ษาเลือกเดินออกมาเอง”

วันนี้เห็นรอยยิ้ม มีความสดใส มีความสุขแล้วนะ แต่ถ้าย้อนไปตอนนั้นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆ ?

ษา :
“คือแบบสุดพลัง คุณแม่ษาก็เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน ก็เลี้ยงษามาคนเดียวเหมือนกัน ก็เห็นคุณแม่เหนื่อยมาเหมือนกัน แต่ไม่ได้ซึมซับไงว่ามันเหนื่อยขนาดไหน ณ วันหนึ่งมันเหนื่อยจนกระทั่งหันไปหาแม่เข้าไปกราบที่อกบอกว่า แม่เลี้ยงหนูมาได้ไงกับเงินแค่ 8,000 บาท เงินเดือนแม่ 8,000 บาทแล้วเลี้ยงหนูมา หนูได้ละครเรื่องนึงยังไม่พอเลย”





ที่บอกว่าเหนื่อยมากๆ มันเหนื่อยกายหรือเหนื่อยใจ ?

ษา :
“มันเหนื่อยทั้งกายและเหนื่อยทั้งใจ ใช่ช่วงลูกอายุ 1-4 ขวบ ทุกอย่างต้องวางระบบ เราต้องมีสติอยู่ทุกวินาที”

มีจุดที่ท้อบ้างไหม ?

ษา :
“มีขนาดเลี้ยงลูกปกติเดี๋ยวก็ตื่นๆ แต่นี่ลูกษาไม่ได้ตื่นอย่างนั้น ลูกษาตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทำอะไรก็ต้องระวัง”

ร้องไห้บ่อยไหม ?

ษา :
“ก็นิดหน่อยค่ะ ต้องมีบ้าง ก็นับ 1,2,3,4,5,6 นับไปเรื่อยๆ แล้วหายใจลึกๆ ขึ้นมาใหม่”





ษารับปรึกษาปัญหาให้กับพ่อแม่ ?

ษา :
“ตอนที่ษาประกาศออกไป วันนั้น Inbox แตก มาเกือบพัน ที่ษาให้คำปรึกษาไปและได้ผลก็มีหลายคนเลย”

เวลาให้คำปรึกษาคิดเงินไหม ?

ษา :
“ไม่คิดค่ะ เมื่อก่อนเป็นวิทยาทานเล็กๆ ให้เขาด้วย กลุ่มละ 10-20 คน ษาคิดว่ามันเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง ซึ่งบุญนี้เราก็ต่อไปให้ลูกสติปัญญาดีเหมือนเด็กคนอื่น อยู่กับคนอื่นได้”


เจอความรักครั้งใหม่ ?

ษา :
“4 ปีแล้ว”





คนนี้เขาน่ารักยังไง?

ษา :
“เขาเป็นสายบุญ เป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น จนบางทีตัวเองก็โดนเอง เขาเป็นคนน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย”

เขาโอเคกับลูกเราไหม ?

ษา :
“เขาพยายามจะเข้าใจลูกว่าลูกเราเป็นยังไง พยายามเข้าใจเราว่าเรารักษาลูกแบบไหน พูดแบบไหน เขาก็ทำตาม แล้วก็เขาสอน “เซย์เดย์” ในเรื่องทางผู้ชายเยอะ”

ตอนที่เจอษาใหม่ๆ ตอนนั้นร้องเพลงจีบเลยไหม?

อาท :
“ใช่ ร้องลิเกครับ”





ทำไมถึงหลงรักผู้หญิงคนนี้ ทั้งๆ ที่เขาเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง ?

อาท :
“เราเจอกันด้วยงานบุญ แล้วผมก็เป็นคนที่ทำบุญตลอด แล้วจะเจอเขา เราก็เห็นผู้หญิงคนนี้ทำอะไรทุกอย่างเต็มที่ จนเรารู้สึกว่าคนที่เขาเป็นดาราเขาทำแบบนี้กันหรือเปล่า คือเขาไม่มีลุคดาราให้เราเห็นหรือทำอะไรให้รู้สึกว่าเราคุยกับเขาไม่ได้ ด้วยความที่เขาตรงไปตรงมาคุยกับเขาแล้วเรารู้สึกได้ว่าเขามีความจริงใจ”

เจอกันครั้งแรกจีบเลยไหม ?

อาท :
“คือเราสองคนไม่ได้จีบกัน ให้ตอบตอนนี้ผมก็ยังตอบไม่ได้ว่าเราจีบกันตอนไหน”

ทำไมถึงเปิดใจเลือกผู้หญิงคนนี้ ?

อาท :
“ผู้หญิงสวยเยอะ ไปที่ไหนก็เจอคนสวย แต่การที่เราจะเจอคนดีจริงๆ มันยากนะ แล้วเราเห็นการทุ่มเมของเขา เห็นเขาดูแลลูกเขา ดูแลแม่เขา เขาไม่มีใครจริงๆ หรือเปล่า เราดูอยู่ห่างๆ ไม่อยากเป็นมือที่2-3 ของใคร จนเรามั่นใจว่าเขาเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง เขาอยู่กับคุณแม่ แล้วเราเห็นการทำงาน เขาเหนื่อย เราเลยมีความรู้สึกว่าเราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปดูแลเขาสักนิดนึงก็ได้ ก็เลยทำให้ความสัมพันธ์มันเกิดขึ้น”





ษา : “เขาเป็นคนที่เข้าตามตรอกออกตามประตู เขาเข้าทางคุณแม่ นอบน้อมคุณแม่เขาก็ชอบอยู่แล้ว เขาพยายามปรับตัว แต่เราก็มีความหวั่นใจ เพราะเราเป็นแม่หม้ายลูกติด แล้วผู้ชายจะโอเคหรือเปล่า เราก็กลัว แล้วเราก็กลัวว่าที่บ้านเขาจะรับเราได้ไหม สรุปน่ารักทุกคน”

หลายคนมองว่าลิเกส่วนมากจะเจ้าชู้ ?

ษา :
“ตอนแรกกลัวค่ะ จะรอดไหม ก่อนหน้านั้นเราก็มีผิดหวังมาแล้ว ก็เลยดูเขา แต่พอดูๆ ไป เขากลัวผู้หญิงมาจีบ ขี้อาย”

เพราะอะไรถึงแต่งงานกันไม่ได้ ?

อาท :
“จริงๆ มันอาจจะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล สมมติว่ามีคนไม่รู้จักพี่เลย 10 คน แล้วทักพี่เหมือนกันหมดว่าแต่งงานไม่ได้นะ ถึงแต่งก็ต้องเลิกกัน”

ษา : “ไม่ได้เอาไปดูด้วยกันนะ หมายถึงต่างคนต่างดู”





อาท : “ก็มีคนมาทักอาทอยู่แล้วว่าดวงอาทแต่งงานไม่ได้ ถ้ามีคู่ก็คู่มีตำหนิ คำนี้ 10 กว่าปีที่แล้วที่ทำนายมา แล้วก็แต่งงานไม่ได้ ถ้าแต่งก็ต้องเลิกกัน แต่ถ้าอยู่ก็ต้องอยู่แบบเพื่อน อยู่แบบคู่บุญถึงจะอยู่กันได้”

ษาโอเคไหม ?

ษา :
“โอเคค่ะ เพราะษาผ่านมาแล้ว ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในชีวิต”

อาท : “ผมโอเคนะ เพราะผมมีความรู้สึกว่าชีวิตคู่ไม่ได้อยู่ที่งานแต่งงาน แต่มันอยู่ที่การใช้ชีวิตจริงๆ มากกว่า”

ไม่มีงานแต่งไม่เป็นไร แต่อีกเรื่องที่มีไม่ได้คือลูก เกิดอะไรขึ้น ?

ษา :
“ตัวษาเองตอนมี “เซย์เดย์” ษาจะมีประวัติอยู่กับคุณหมอคือรกเกาะต่ำ คือมดลูกไม่ได้อยู่ที่ของเขา คือเขาร่วงไปอยู่ปากช่องคลอด แล้วก็ไปปิดปากช่องคลอด เพราะฉะนั้นเวลา “เซย์เดย์” จะเอาหัวออกมันจะไปขูดกับมดลูก ทีนี้มันจะเป็นเลือดออกเป็นบาดแผล แล้วตกเลือด คือถ้าคุณแม่เป็นภาวะรกเกาะต่ำจะต้องผ่าออก”

คือไม่สามารถมีลูกได้อีก ?

ษา :
“คือตรงนี้คุณหมอกระซิบบอกบางคนก็มีได้ แต่คุณหมอบอกษาว่าถ้ามีลูกคนที่สองปรึกษานะ อย่าปล่อย เพราะอาจจะมีภาวะท้องนอกมดลูกได้ แล้วก็มีภาวะในการแท้งสูง”

คุณอาทอยากมีลูกไหม ?

อาท :
“เป็นคนไม่คิดอยากมีลูกตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมมีจุดประสงค์ จุดหมายของผมตั้งเด็กจนถึงปัจจุบัน จริงๆ ถ้าผมไม่ได้เจอษาผมก็คงยังไม่มีลูก เราเคยคิดว่าวันหนึ่งถ้าเราแก่ตัวไปผมก็อาจจะบวชหรือเข้าป่าไปอยู่ที่ที่เราไม่เอาบ่วงมาผูกคอเอาไว้ ถ้าเราจะตายเราก็ตายด้วยตัวของเรา”



ขอบคุณรูปจากอินสตาแกรม : kuizapshow , wannasa_thong