สปสช.ยันให้ความเป็นธรรมคลินิกทุจริตเงินบัตรทอง

2020-08-16 09:17:30

สปสช.ยันให้ความเป็นธรรมคลินิกทุจริตเงินบัตรทอง

Advertisement

สปสช.ยันให้ความเป็นธรรมในการสอบสวนคลินิกทุจริตเงินบัตรทอง  เปิดโอกาสให้ชี้แจงข้อมูลทั้งชุดแรก 18 แห่ง และชุดที่สองอีก 68 แห่ง 

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มี 74 คลินิกชุมชนอบอุ่นร้องขอความเป็นธรรมในการดำเนินการสอบสวนเอาผิดการทุจริตเงินส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของ สปสช. ว่า ประเด็นแรก คลินิกที่ถูกตรวจสอบออกมาพูดในลักษณะว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการตรวจสอบ ตนอยากจะอธิบายว่าในระหว่างที่มีการตรวจสอบการเบิกเงินชดเชยการให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคนั้น เมื่อ สปสช.ตรวจความผิดปกติของรายการที่ส่งมาเบิกเงิน ก็ได้เปิดโอกาสให้คลินิก 18 แห่งในชุดแรกเข้ามาให้คำชี้แจงอธิบาย แต่เมื่อคำอธิบายฟังไม่ขึ้น ข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์แสดงว่ามีความไม่ตรงไปตรงมาในการขอเบิกเงิน สปสช.ก็ดำเนินการไปตามข้อมูลข้อเท็จจริงที่เจอ โดยได้แจ้งความและเพิกถอนสถานะการเป็นหน่วยบริการคู่สัญญากับ สปสช.ไปแล้ว จากนั้นมีการขยายผลตรวจสอบเพิ่มเติมคลินิกอีก 68 แห่งที่พบว่าข้อมูลการเบิกจ่ายมีความผิดปกติมากๆ ก็ได้มีการเรียกประชุมคลินิกทั้ง 68 แห่งเพื่อเปิดโอกาสให้มาชี้แจงอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคำขอเบิกเงินถึงดูผิดปกติ การประชุมครั้งนั้นมีคลินิกมาเข้าร่วมประชุม 64 แห่ง และมีเกือบ 40 แห่งที่ขอถอนถอนใบเบิกเงินที่ส่งมาเบิกแล้ว แต่คณะอนุกรรมการฯไม่ได้หยุดแค่นั้นเพราะการส่งเบิกเงินมาและมีการโอนเงินเกิดขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นประเด็นแรกขอบอกว่าได้ให้ความเป็นธรรมแก่หน่วยบริการแล้ว

นายนิมิตร์ กล่าวว่า ประเด็นต่อมาที่มีการบอกว่าการที่ สปสช.ไม่โอนเงินให้ ทำให้คลินิกชุมชนอบอุ่นเกิดปัญหาสภาพคล่อง ต้องบอกว่าในที่ประชุมกรรมการหลักประกันสุขภาพมีการถกเถียงกันเยอะ ในขั้นแรก สปสช.รายงานคณะกรรมการว่าได้ชะลอการจ่ายเงินแก่คลินิกที่มีการทุจริต แต่คณะกรรมการได้อภิปรายแล้วเห็นว่าไม่ควรชะลอ แต่ควรต้องยุติหรือตัดเงินที่จะจ่ายไปเลย แต่ในรายการที่หน่วยบริการได้ให้บริการอื่นๆ ก็ยังจ่ายตามปกติ จนกระทั่งคลินิกเหล่านั้นถูกยกเลิกการเป็นคู่สัญญากับ สปสช. เงินทั้งหมดก็ต้องยกเลิกการจ่ายไปด้วย ประเด็นที่ 3 ที่มีการระบุว่ามีการเลือกปฏิบัติหรือไม่เพราะ 18 คลินิกแรกถูกแจ้งความและยกเลิกสถานะคู่สัญญากับ สปสช. แต่ 63 คลินิกที่ตรวจสอบภายหลังแค่แจ้งความเฉยๆ แต่ไม่ยกเลิกสัญญา ขอชี้แจงว่าถ้าความผิดฐานเดียวกันก็ต้องปฏิบัติแบบเดียวกัน ต้องยกเลิกหรือไม่ต้องยกเลิกแบบเดียวกัน แต่ว่าขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะมีระบบมารองรับประชาชนที่ใช้บริการกับคลินิกเหล่านี้อย่างไร ในส่วนของ 18 คลินิกแรกได้ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขของ กทม. มาช่วยรับช่วง ส่วนคลินิกอีก 60 กว่าแห่งนี้ อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่ายกเลิกสัญญาแล้วจะมีระบบมารองรับอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน และเมื่อจัดการระบบเสร็จเรียบร้อย ถ้าคลินิกไหนมีปัญหาแบบเดียวกันก็จะปฏิบัติแบบเดียวกัน


"อีกประเด็นที่มีผู้ไปร้องเรียนว่าระบบหลักประกันสุขภาพทำให้หน่วยบริการขาดสภาพคล่อง ทาง สปสช.และกระทรวงสาธารณสุขมีการหารือร่วมกันว่าค่าบริการที่เหมาะสมเป็นอย่างไร มีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับจำนวนประชากรในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการแบบนี้ทำให้หน่วยบริการบริการที่เคยขาดสภาพคล่องลดลงจนปัจจุบันน่าจะเหลืออยู่ 1-2 แห่งเท่านั้น อีกส่วนอยากฝากรัฐบาลและสำนักนายกรัฐมนตรีว่าการตัดงบประมาณขาขึ้นไปเพื่อให้ค่าเหมาจ่ายรายหัวน้อยลงนั้น ต้องทำอย่างระะมัดระวัง เพราะการจัดทำงบประมาณมีความสมเหตุสมผล ไม่ได้คิดอยู่บนฐานกำไรขาดทุน แต่คิดอยู่บนฐานว่าสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนควรจะได้รับ" นายนิมิตร์ กล่าว

ด้าน นพ.การุณย์ คุณติรานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกนสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตนขอเน้นย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า สปสช.เป็นผู้ตรวจพบการทุจริตและขยายผลในการดำเนินการ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา มีองค์ประกอบจากบุคคลภายนอกที่เป็นอิสระ ไม่มีคนจาก สปสช.เข้าไปเป็นคณะอนุกรรมการตรวจสอบเลย และยังมีการตั้งคณะทำงานอีก 2 ชุด ชุดแรกตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินค่าบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคว่าเป็นไปตามระเบียบกฎหมายข้อบังคับหรือไม่ ส่วนคณะทำงานอีกชุดจะพิจารณาระบบการตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าบริการของ สปสช. ดังนั้นขอให้ประชาชนและผู้เสียภาษีสบายใจว่าคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะดำเนินการตรวจสอบเพื่อเรียกเงินคืนทั้งหมด ส่วนผู้ประกอบการคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ดำเนินการโดยสุจริต ก็ขอให้มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมจากอนุกรรมการชุดนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ นพ.การุณย์ กล่าวว่าในส่วนของการดำเนินการเอาผิดไปคลินิกชุมชนอบอุ่นที่ทุจริตนั้น ได้ดำเนินการ 2 ชุด ชุดแรกประกอบด้วยคลินิกชุมชน 18 แห่ง คลินิกทันตกรรม 2 แห่ง ห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง ชุดที่สอง คลินิกชุมชนอบอุ่น 54 แห่ง คลินิกทันตกรรม 3 แห่ง โรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง รวมที่ดำเนินคดีไปแล้ว 86 แห่ง และภายในสิ้นเดือนนี้จะสรุปผลการตรวจสอบคลินิกชุมชนอบอุ่นทั้งหมดใน กทม.