ผบช.สตม.ลงสมุย ติวเข้มมาตรการรองรับ นทท.สู้โควิด-19

2020-08-15 10:40:47

ผบช.สตม.ลงสมุย ติวเข้มมาตรการรองรับ นทท.สู้โควิด-19

Advertisement

ผบช.สตม.ลงสมุย ติวเข้ม จนท.-ผู้ประกอบการโรงแรม ให้เตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวสู้โควิด-19

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เป็นประธานการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การกำหนดรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติ STANDARD OPERATION PROCEDURES (SOP) ภายใต้ New Normal เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พิสิษฐ์ ตันประเสริฐ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พีรวัฒน์ บุญลอย ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ ช่วยราชการ สตม. และ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.สุราษฎร์ธานี และตัวแทนข้าราชการตำรวจ สตม.ทั่วประเทศ เข้าร่วมรับฟังกว่า 300 นาย

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานและการดำรงชีวิตของประชาชนต้องเปลี่ยนแปลงไป และเพื่อให้การทำงานของข้าราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมีความปลอดภัย และดำรงไว้ซึ่งการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานการกำหนดรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติ หรือ STANDARD OPERATION PROCEDURES (SOP) ภายใต้ New Normal ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยมอบหมายให้ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตรวจคนเข้าเมือง เป็นประธานคณะทำงานฯ เพื่อกำหนดกรอบการดำเนินงานที่เป็นรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติงานให้ครอบคลุมตามหน้าที่ความรับผิดชอบของสายงานต่งๆ




ผบช.สตม. กล่าวอีกว่า ตนให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด สตม. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการการท่องเที่ยว ซึ่งพื้นที่เกาะสมุย มีความหมาะสมทางด้านกายภาพซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงต้องลงพื้นที่เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงแรม, ร้านอาหาร และร้านค้า เพื่อจัดทำแนวทางรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ยังให้ตำรวจ ตม.ช่วยเหลือสังคม โดยเข้าร่วมกิจกรรมโครงการจิตอาสาพัฒนา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างองค์กรและชุมชนอีกด้วย

พล.ต.ต.สมพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันแม้จะยังไม่มีกำหนดจาก ศบค.ว่าจะเปิดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยได้เมื่อใด แต่ตำรวจ ตม.ก็ต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน เพราะทำงานของ สตม.เกี่ยวขอ้งกับการเข้าประเทศของคนต่างชาติโดยตรง ที่สำคัญ คือ เกาะสมุย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความนิยม จึงต้องทำการประชุมเพื่อกำหนดรูปแบบมาตรฐานการปฏิบัติ หรือ SOP ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง โรงแรม สถานบริการต่างๆ และร้านอาหาร ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะหากเปิดให้มีการท่องเที่ยวไม่ว่าในรูปแบบใด ก็จะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง นอกจากนี้ยังเย้นย้ำให้เจ้าหน้าที่นำเอาประสบการณ์ในการเผชิญไวรัสโควิด-19 มาปรับใช้ เช่น การติดตามตัว หรือสืบสวนโรคย้อนหลัง เพื่อการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ



ด้าน นางพิมพ์พร ทองสุข ผู้บริหารโรงแรมแฟร์เฮ้าร์ บีช รีสอร์ต กล่าวว่า ทำธุรกิจโรงแรมมานานกว่า 40 ปี ทุกวันนี้ต้องแบกรับพนักงานกว่าร้อยชีวิต ตนไม่เคยพบสถานการณ์แบบนี้มาก่อน แต่ที่นี่ คือ เกาะสมุย ในวันนี้ที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือคนไทย ผู้ประกอบการทุกประเภทเดือนร้อน แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยส่งเสริมค่าห้องพักแล้วก็ตาม แต่ไม่คุ้มค่าเพราะมีคนมาเที่ยวแค่วันละห้องสองห้อง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต้องฝากความหวังไว้กับสายการบินที่ผูกขาดเพียงรายเดียวทำให้ตั๋วมีราคาแพง แม้ในช่วงส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศก็ตามก็ไม่ลดราคา จึงอยากให้รัฐช่วยในส่วนนี้ด้วย เพราะโรงแรมเปิดให้บริการแต่ราคาตั๋วเครื่องบินยังสูงแล้วใครจะเดินทางมาสมุย เราไม่รู้เลยว่าจะเปิดกิจการได้ถึงวันไหน ทุกวันนี้กำลังหารือกันว่าจะเปิดสมุยให้ปลอดภัยที่สุด และให้ชาวบ้านไม่ต้องกังวล ความหวังหนึ่ง คือ การสร้างสะพานจาก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช มาเกาะสมุย ระยะทาง 17 กม. ซึ่งเป็นระยะทางที่ใกล้ที่สุด สะพานเป็นความหวังของโรงแรมกว่า 40,000 ห้องโดยไม่ต้องพึ่งพาสายการบินที่ผูกขาดเพียงเจ้าเดียว ตอนนี้พวกเราภาคธุรกิจและประชาชน กำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อเสนอทางจังหวัดให้ดำเนินการต่อไป

ขณะที่ นายวรสิทธิ์ ผ่องอำพัน นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา สมุยมีนักท่องเที่ยว 2,300,000 คน แต่ตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ตนกำลังจะไปหารือกลุ่มเล็กกับ ศบค.ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ เพื่อหามาตรการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาสมุยเป็นการเฉพาะ โดยมาตรการเบื้องต้น คือ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องเดินทางมาโดยสายการบินไทยเท่านั้น เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ต้องตรวจสวอป จากนั้นไม่ต้องผ่าน ตม.ให้ต่อเครื่องมายังสมุย ทันที แล้วตรวจสวอปอีกทีก่อนเข้า SQ ที่สมุย โดยจะมีการตรวจต่อเนื่อง หากตรวจแล้วไม่พบเชื้อ 7 วันก็สามารถออกจากห้องพัก และอยู่เฉพาะในโรงแรมได้ แต่ยังออกมานอกโรงแรมไม่ได้ หากพ้น 14 วันแล้ว จะมีริชแบรนติดตัว ซึ่งสามารถออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้หากไม่พบว่ามีการติดเชื้อ แต่ในกรณีพบเชื้อ ตนได้คุยกับโรงพยาบาลกรุงเทพสมุย เอาไว้แล้วว่า สามารถรองรับการรักษาโรคได้ถึง 200 คน ในส่วนนี้อาจต้องหารือในเรื่องราคาตั๋วเครื่องบินกับการบินไทยที่ต้องลดราคาลงโดยการสนับสนุนของรัฐ เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเหมือนเดิม ทั้งนี้สามารถรับได้ทันทีกลุ่มแรกประมาณ 200 คนเพื่อนำร่องโครงการ โดยมีเป้าหมาย คือ นักท่องเที่ยวเยอรมันเป็นประเทศแรกแต่คงต้องคุยกับชาวบ้านทั้ง 7 ตำบลให้เข้าใจเกี่ยวกับโครงการนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า พล.ต.ท.สมพงษ์ กำลังให้ความสำคัญกับขั้นตอนการปฏิบัติงานการตรวจบุคคลและพาหนะทางอากาศเพื่อรองรับการท่องเที่ยวในอนาคต โดยขณะนี้ได้ร่างคู่มือให้ตำรวจ ตม.ปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน อาทิ เจ้าหน้าที่สวมใส่หน้กากอนามัย หรืออุปกรณ์ป้องกันใบหน้า (Face Shield) และสวมถุงมือตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้ที่ สวมชุดป้องกัน PPE รวมทั้งตรวจวัตอุณภูมิร่างกายทั้งก่อนและหลังการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้ง สำหรับผู้โดยสารทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามา จะต้องแสดงเอกสารที่เกี่ยวข้องตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด และผ่านการคัดกรองโรคตามมาตรฐานของกรมควบคุม จากนั้นจะนำเข้าสู่กระบวนการของกรมควบคุมโรคติดต่อ โดยจะนำไปยัง State Quarantine หรือ Local Quarantine ที่รัฐบาลกำหนด 14 วัน หรือกระบวนการอื่นๆ ตามที่รัฐบาลกำหนดอย่างเคร่งครัด