ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคุก 6 เดือน “เปรมชัย”ครอบครองปืนไรเฟิล

2020-08-11 10:01:36

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคุก 6 เดือน “เปรมชัย”ครอบครองปืนไรเฟิล

Advertisement

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคุก “เปรมชัย” 6 เดือนคดีครอบครองปืนไรเฟิล

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายเปรมชัย กรรณสูตร จำเลยในคดีครอบครองปืนไรเฟิล พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาศาลตามนัดเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายเปรมชัย  อายุ 66 ปี ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน)  เป็นจำเลยในความผิดฐาน มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธ ไว้ในบ้านพัก ใน กทม. โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ.2490 

คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2561 ระบุพฤติการณ์ความผิดว่า  เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2561 จำเลยกระทำผิดกฎหมายด้วยการมีอาวุธปืนยาวไรเฟิล 3 กระบอก และปืนแก๊บ 1 กระบอกไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาตภายในบ้านพัก ซอยศูนย์วิจัย 3 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.   ศาลอาญามีคำพิพากษาเมืี่อวันที่ 20 ส.ค.2562 เห็นว่า เมื่อพิเคราะห์รายงานสืบเสาะประวัติ ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบทให้จำคุก 1 ปี ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7, 72 วรรคหนึ่ง จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 6 เดือน แต่เนื่องจากจำเลย ยังมีโทษคดีอาญาจำคุกอีก 2 คดี ที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 จึงไม่อาจรอการลงโทษได้ และได้รับการประกันตัว 2 แสนบาทระหว่างอุทธรณ์คดี  จำเลยยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษด้วย

ล่าสุดศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่าอุทธรณ์ของทั้งโจทก์และจำเลย ไม่เคยถูกหยิบยกมาพูดในศาลชั้นต้นมาก่อน ดังนั้นอุทธรณ์จึงไม่รับวินิจฉัย ส่วนที่จำเลยขอให้รอการลงโทษนั้น ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยครอบครองอาวุธปืนไม่มีทะเบียนถึง 5 กระบอก บางกระบอกเป็นอาวุธร้ายแรงสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ หากนำไปก่ออาชญากรรม หรือนำไปใช้ล่าสัตว์ป่า ก็ยากที่จะหาตัวผู้กระทำความผิด ถือเป็นพฤติการณ์ร้ายแรง และที่จำเลยอ้างถึงสาเหตุด้านสุขภาพนั้น ศาลเห็นว่าภายในเรือนจำมีโรงพยาบาลและแพทย์คอยดูแล และสามารถส่งต่อให้กับโรงพยาบาลภายนอกได้หากมีเหตุจำเป็น ดังนั้นศาลอุทธรณ์จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นจำคุก 6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา

ขณะที่ทนายความของนายเปรมชัยอยู่ระหว่างยื่นขอประกันตัวระหว่างต่อสู้คดีในศาลฎีกา โดยใช้หลักทรัพย์เดิม และเพิ่มเงินสด รวม 5 แสนบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาให้ประกันหรือไม่

ต่อมาเวลา 14.00 น. ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกัน นายเปรมชัยโดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท โดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไขแต่อย่างใด สำหรับคดีของนายเปรมชัย เป็นคดีต้องห้ามฎีกา ตาม ป.วิอาญามาตรา218เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยังคงลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินห้าปี จึงห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เว้นเเต่ผู้พิพากษาที่เคยพิจารณาสำนวนหรือผู้พิพากษาที่มีอำนาจหรืออัยการสูงสุดเป็นผู้รับรองฎีกา