เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเลบานอน เคยเตือนนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้วว่า สารแอมโรเนียม ไนเตรท จำนวน 2,750 ตัน ที่เก็บไว้ที่ท่าเรือในกรุงเบรุต เสี่ยงต่อความปลอดภัยและอาจทำลายเมืองหลวงได้ หากมันเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งเพียง 2 สัปดาห์ต่อมา สารเคมีอุตสาหกรรมตัวนี้ ก็ระเบิดครั้งใหญ่ทำลายล้างกรุงเบรุตอย่างยับเยิน มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 220 คน และบาดเจ็บมากกว่า 6,000 คน และอาคารบ้านเรือนประมาณ 6,000 หลังถูกทำลาย จากการรายงานของเจ้าหน้าที่เทศบาลกรุงเบรุต
รายงานของฝ่ายความมั่นคงเกี่ยวกับเหตุการณ์ก่อนเกิดระเบิด อ้างถึงจดหมายเตือนส่วนตัวที่ส่งถึงประธานาธิบดีมิเชล อูน และนายกรัฐมนตรีฮัสซัน ดีอาบ ของเลบานอนเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม
ส่วนรัฐบาลเลบานอน ประกาศลาออกท่ามกลางความโกรธแค้นของประชาชนที่พุ่งสูงขึ้น กรณีเหตุระเบิดครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีดีอาบ ประกาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติในช่วงเย็นวันจันทร์ โดยบอกว่า เหตุระเบิด และความโกรธแค้นของประชาชน เป็นผลมาจากการทุจริตคอร์รัปชั่นเรื้อรัง
นายดีอาบ กล่าวระหว่างการประกาศลาออกว่า วันนี้ พวกเราปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของประชาชนที่เรียกร้องให้หาผู้แสดงความรับผิดชอบสำหรับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น เขาประณามว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งนี้ และว่า ผู้ที่รับผิดชอบควรจะรู้สึกละอายใจ เพราะการกระทำของพวกเขานำไปสู่ความหายนะ “เกินคำบรรยาย”
เขากล่าวทิ้งท้ายว่า เขาเคยพูดก่อนหน้านี้แล้วว่า การคอร์รัปชั่นฝังรากลึกอยู่ในทุกระดับชั้นของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เขากลับพบว่า การคอร์รัปชั่นรุนแรงเกินระดับประเทศ ซึ่งเขาชี้ให้เห็นว่า นักการเมืองบางกลุ่มขัดขวางการเปลี่ยนแปลงและรัฐบาลของเขาเผชิญหน้ากับอุปสรรคใหญ่ ไม่ต่างจากกำแพงอิฐ ในการปฏิรูปประเทศ
ด้านประธานาธิบดีอูน ยอมรับการลาออกของรัฐบาล และขอให้รัฐบาลของนายอีดาบ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยการสนับสนุนของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ที่ทรงอิทธิพล ซึ่งมีอิหร่านหนุนหลัง รักษาการบริหารประเทศไปก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งคณะมนตรีชุดใหม่
ก่อนการประกาศลาออกของนายดีอาบ การประท้วงปะทุขึ้นเป็นวันที่ 3 ในพื้นที่กลางกรุงเบรุต โดยผู้ประท้วงบางคน ขว้างปาก้อนหินเข้าใส่กองกำลังรักษาความมั่นคง ที่รักษาความปลอดภัยบริเวณทางเข้าอาคารรัฐสภา ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ ทั้งนี้ ประชาชนจำนวนมาก กล่าวหาผู้นำของประเทศว่าเป็นผู้กระทำความผิด จากการประมาทเลินเล่อ และคอร์รัปชั่น กลุ่มผู้ประท้วงลงสู่ถนนและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน