เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา! “โชเฟอร์ 6 ล้อ-รถบัส” ขับรถประมาท

2020-08-10 16:30:47

เตรียมแจ้งข้อกล่าวหา!  “โชเฟอร์ 6 ล้อ-รถบัส” ขับรถประมาท

Advertisement

ความคืบหน้ากรณีกลุ่มรถจักรยานยนต์เลดี้ 2ล้อ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ลากจูงรถ เนื่องจากเข้าข่ายความผิดกฎหมายการจราจร เพราะสลิงที่ลากจูงไม่มีการทำสัญลักษณ์ให้ผู้ใช้ทางเห็นได้อย่างชัดเจน

กรณีกลุ่มรถจักรยานยนต์ เลดี้ 2 ล้อ กลับจากทำบุญจาก จ.สิงห์บุรี ชนสลิงลากรถบัส เสียชีวิต 3 ราย บริเวณแยกโรงพยาบาลศรีประจันต์หรือแยกไปสามโก้ ถนนสาย 340 ชัยนาทสุพรรณบุรี ขาเข้าตัวเมืองสุพรรณบุรี หมู่ที่ 1 ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ส่งผลให้นายรณชัย วงษ์สุดิน อายุ 20 ปี และนายวรากร อินทรจร อายุ 22 ปีเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุ ส่วนนายอภิรักษ์ โพธิ์รื่น อายุ 29 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัส ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตที่ รพ. ศรีประจันต์

ความคืบหน้าวันที่ 10 ส.ค. ร.ต.อ.พิสิษฐ์ ปทุมสูตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ ร้อยเวรเจ้าของคดี ได้สอบปากคำนายสกล วุฒิโชติ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ใช้สลิงลากจูงรถบัส และสอบปากคำนายนคร ศรีเมือง คนขับรถบัส เบื้องต้นทั้งคู่ให้การว่า ได้ลากจูง รถบัสมาจากพื้นที่ อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เพื่อจะไปเติมแก๊สในพื้นที่ อ.ศรีประจันต์ กระทั่งถึงที่เกิดเหตุ มีกลุ่มรถจักรยานยนต์ขับ ผ่านมาประสบอุบัติเหตุ จึงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต




จากการตรวจสอบเบื้องต้นกลุ่มรถจักรยานยนต์ ขับออกจากสัญญาณไฟเขียวที่สี่แยกก่อนถึงสามแยกเกิดที่เกิดเหตุขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ทั้งคนขับรถบรรทุกและคนขับรถบัส เนื่องจากอยู่ระหว่างให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสอบเก็บร่องรอยการเฉี่ยวชนรถทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียด เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับฝ่ายคนขับรถบรรทุกและคนขับรถบัส สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายญาติ ได้มารับไปบำเพ็ญกุศล ตามภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายแล้ว

เบื้องต้นกลุ่มเพื่อนผู้เสียชีวิตให้การว่าเส้นทางขากลับมาถึงสี่แยกไฟแดง ก่อนถึงที่เกิดเหตุเพื่อรอติดสัญญาณไฟแดง จนกระทั่งสัญญาณไฟเขียว กลุ่มผู้เสียชีวิตได้เร่งเครื่องออกตัวรถ แต่พอมาถึงสามแยกที่เกิดเหตุ ที่เป็นจุดเกิดเหตุ ไม่มีสัญญาณไฟ ผู้เสียชีวิตไม่สามารถชะลอตัวหยุดรถได้ทัน เพราะสีของสลิงแทบจะเป็นสีเดียวกับพื้นถนนจึงเกิดเหตุสลดขึ้น



ส่วนกลุ่มรถจักรยานยนต์ ที่จะต้องขี่ไปตามถนนเป็นขบวนหลายๆคัน เป็นกลุ่มไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร หากไม่ได้กระทำความผิดกฎหมายจราจรหรือกระทำความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน หากกลุ่มรถจักรยานยนต์ทั่วไปจะขี่เป็นขบวนเป็นทริปไปทำการกุศลต่างๆหรือท่องเที่ยวผ่านพื้นที่ไหนก็สามารถที่จะขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวก ด้านการจราจรขอรถนำขบวนหรือรถปิดท้ายขบวนก็สามารถทำได้เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน

สำหรับรถกรณีลากจูงเบื้องต้นถือว่าผิด ที่ไม่มีสัญญาณเตือน เช่น ผ้าแดง หรือทำสัญลักษณ์ให้เห็นเด่นชัด ซึ่งลักษณะการขึงสลิงนั้นเว้นช่วงห่างกว่าปกติ ประกอบกับสลิงที่ลากจูงก็อยู่สูงจากพื้น จึงส่งผลให้คนขี่รถจักรยานยนต์ชนกับสลิง โดยสลิงไม่โดนรถจักรยานยนต์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาเก็บรายละเอียดร่องรอยการเฉี่ยวชนทั้งรถบรรทุกรถบัสและรถจักรรถจักรยานยนต์ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับฝ่ายรถบรรทุกและรถบัส

อย่างไรก็ตามตำรวจยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ลากจูงรถ เนื่องจากเข้าข่ายความผิดกฎหมายการจราจร เพราะสลิงที่ลากจูงไม่มีการทำสัญลักษณ์ให้ผู้ใช้ทางเห็นได้อย่างชัดเจน ตลอดจนตำรวจได้ขอเอกสารรถจักรยานยนต์ทั้ง 3 คันมาตรวจสอบ เพราะมีการดัดแปลงสภาพรถและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาคนขับรถบรรทุกหกล้อและรถรถบัส ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินเสียหาย อย่างไรก็ตามถ้าหากเจ้าหน้าที่สอบสวนพบมีหลักฐานการกระทำผิดอื่นก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม แต่ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใคร