"พุทธิพงษ์" เตือน "ม็อบ" พบละเมิด "สถาบัน" ถูกดำเนินคดีทันที ขู่ซ้ำไม่ปิดกั้นเนื้อหาเฟซบุ๊กโดน พ.ร.บ.คอมฯ
เมื่อวันนี้ 10 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส กล่าวถึงกรณีการรวมตัวชุมนุมที่หน้ารัฐสภา จนอาจเกิดม็อบชนม็อบ ว่า ความคิดเห็นแตกต่างทางการเมืองถือเป็นเรื่องปกติที่มีมาโดยตลอด แต่การใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารต้องมีความระมัดระวัง เพราะบางข้อมูลเป็นสิ่งบิดเบือน อาจส่งผลให้ผู้ที่ออกมาชุมนุมเกิดความรู้สึกโกรธและสับสนจากการไม่ทราบข้อเท็จจริง ส่วนการออกมาชุมนุมควรอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยและได้รับการอนุญาตให้อยู่ในพื้น สำหรับแสดงออกซึ่งสิทธิของตัวเองไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ควรล่วงเกินหรือละเมิดสิทธิของผู้อื่น รวมถึงสถาบันหลักของประเทศ
นายพุทธิพงษ์ กล่าวอีกว่า โดยส่วนตัวมองว่าเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องช่วยกันปกป้องคุ้มครองสถาบันหลัก ซึ่งเชื่อว่าหน่วยงานความมั่นคงจะดูแลทั้งสองฝ่ายไม่ให้เกิดการปะทะ และให้ชุมนุมภายใต้กรอบของกฎหมาย ส่วนโอกาสที่ที่ทั้งสองฝั่งจะเผชิญหน้ากันมีน้อยมาก เพราะต่างมีหลักคิดเป็นของตนเอง และการปะทะกันไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร ดูได้จากเหตุการณ์ในอดีตมีแต่ความสูญเสียและถูกดำเนินคดี ดังนั้นการแสดงออกแบบคนรุ่นใหม่ควรใช้เหตุและผลที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่หากมีการละเมิดล่วงเกินสถาบันหลัก ยืนยันว่าจะดำเนินคดีอย่างแน่นอน
นายพุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางกระทรวงฯ ได้เปิดช่องทางออนไลน์เพื่อให้ประชาชนส่งข้อมูลที่ไม่เหมาะสม พบว่าช่วง 7 วันที่ผ่านมามีขอ้มูลมากกว่าพันเรื่องซึ่งส่งให้ศาลดำเนินคดี 700 กว่าเรื่อง หากศาลมีคำสั่งออกมาจะดำเนินการไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศ เพื่อให้ปิดหรือลบตามคำสั่งศาล ปกติเมื่อส่งไปให้แพลตฟอร์มต่างประเทศ หากไม่แก้ไขก็จะปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้น แต่วันนี้มีการใช้มาตรา 27 ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 หากไม่ดำเนินการภายใน 15 วัน จะดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มต่างประเทศนั้นๆ โดยวันนี้จะเป็นวันแรกที่จะส่งจดหมายเตือนไปให้กับแพลตฟอร์มต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาอีกฝ่ายไม่เคารพ หรือดำเนินการตามคำสั่งของศาลไทย จึงต้องเดินต่อให้สุด ประเทศไทยต้องเคารพและดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตนหรือกระทรวงไม่ได้คิดเองทำเอง
เมื่อถามว่า ขณะนี้ได้แจ้งไปยังแพลตฟอร์มต่างประเทศแล้วหรือยัง รมว.ดีอีเอส กล่าวว่า จากวันนี้นับไปอีก 15 วัน จะดูว่ามีกี่เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหลังจากคำสั่งศาลแล้ว หากแพลตฟอร์มไม่ยอมดำเนินการ ทางกระทรวงฯ ก็จะดำเนินคดีทั้งโทษอาญาและโทษปรับไม่เกิน 2 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีการปรับรายวันไม่เกิน 5 พันบาทเพิ่มเติมด้วย เมื่อถามย้ำว่า เป็นไอพี แอดเดรส ที่อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า มีทั้งสองแบบ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ สำหรับในประเทศไทยส่วนใหญ่จะให้ความร่วมมือ เพราะกฎหมายไทยจะดำเนินการชัดเจน แต่ในต่างประเทศอาจไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายไทย อย่างไรก็ตามจะดำเนินคดีเพราะไม่สามารถที่จะปล่อยต่อไปได้อีกแล้ว
ส่วนกรณีที่แกนนำม็อบที่สนับสนุนรัฐบาล ถูกเชื่อมโยงว่าเคยเคลื่อนไหวกับ กปปส. มาก่อน นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อธิบายยาก เพราะเวลาตนไปอยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ ตนไม่ได้รู้จักทุกคน บางคนอาจเดินอยู่ข้างหลัง ตนเห็นแล้วที่มีการนำภาพออกมาเปิดเผย แต่ยืนยันว่าโอกาสรู้จักกันมีน้อยมาก และบางทีก็ไม่รู้จักกัน ทั้งนี้ต้องไปตรวจสอบว่ามีความเกี่ยวพัน หรือเชื่อมโยงอะไรหรือไม่ ปัจจุบันนักสืบออนไลน์ติดตามกันเยอะแยะอยู่แล้ว วันนี้ต้องให้ความเป็นธรรม อีกอย่าง คือ เมื่อเวลาผ่านไป คนก็เปลี่ยนไป อาจไปสนับสนุนใครก็ได้เพราะเป็นสิทธิของทุกคน วันนี้เขาอาจอยู่กับเรา แต่พรุ่งนี้อาจไปสนับสนุนอีกฝ่ายโดยที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลยก็ได้ จึงอยากให้ดูที่พฤติกรรมมากกว่า หากทำผิดหรือคิดร้ายต่อบ้านเมือง แบบนั้นเป็นเรื่องที่น่ากังวล พร้อมยืนยันว่าไม่รู้จัก และยังนึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร หรือชื่ออะไรด้วยซ้ำ
เมื่อถามต่อว่า ในฐานะที่เคยเคลื่อนไหวในนาม กปปส. วันนี้ กปปส.ยังอยู่หรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า หากถามว่า กปปส.ยังมีอยู่หรือไม่ กปปส.ก็ยังไม่ได้หมดไป เป็นความทรงจำของการต่อสู้ครั้งหนึ่งในอดีตเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว วันนี้เราเป็นเพื่อนกัน อุดมการณ์ยังมีอยู่ หากถามว่าจะมีการรวบรวมหรือจัดตั้งเพื่อต่อต้านหรือชนกับใคร ตนเชื่อว่าไม่มี และวันนี้ยังไม่ได้คุยกับใคร เมื่อถามอีกว่า หากมีเรื่องที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในบ้านเมือง กปปส.พร้อมที่จะออกมาอีกหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ในความรู้สึกของทุกคน หากมีอะไรที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นก็คงจะมีคนออกมาเสมอ ไม่ว่าจะมาจากฝั่งไหน ตนเป็นคนหนึ่งที่เคยออกมาเคลื่อนไหว อยากจะเตือนไปถึงน้องๆ ว่า การออกมาชุมนุมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากจะทำอะไรต้องตัดสินใจให้ดี และอยู่ในกรอบกฎหมาย เพราะหลังจากการชุมนุมทุกครั้งจะมีการดำเนินคดี ต้องใช้เวลานานมากกว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย ตนคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ อยากให้น้องๆ ทุกคนที่ออกมาระมัดระวัง เพราะอาจเสียทั้งเวลาและเสียโอกาส