"งูเห่า"เลื้อยเข้าบ้านพ่นพิษใส่"ยาย"หวิดตาบอด

2020-08-10 10:30:59

"งูเห่า"เลื้อยเข้าบ้านพ่นพิษใส่"ยาย"หวิดตาบอด

Advertisement

"ยาย" ผงะ "งูเห่า" เลื้อยเข้าบ้านก่อนพ่นพิษใส่หวิดทำตาบอด ด้าน "อาสาสมัคร" แจ้งเตือนพบมากในช่วงหน้าฝน

เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ยายอายุ 79 ปีถูกงูเห่าที่เลื้อยเข้าไปภายในบ้านพ่นพิษใส่ตาจนได้รับบาดเจ็บ หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 83/3 หมู่ที่ 2 ต.รำมะสัก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นบ้านของคุณยายบัวหวั่น สำลี อายุ 79 ปี ซึ่งนอนพักรักษาตัวอยู่ภายในบ้านหลังถูกงูเห่าพ่นพิษใส่ตา จากการตรวจสอบตาทั้งสองข้างพบว่ายังแดงช้ำ และมีรอยไหม้ที่ขอบตา โดยต้องใช้ยาที่แพทย์จากโรงพยาบาลโพธิ์ทอง คอยหยอดเป็นระยะ

ยายบัวหวั่น เล่าให้ฟังว่า อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวตามลำพัง โดยเลี้ยงแมวไว้ 6 ตัว เมื่อเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะนอนอยู่บนบ้านได้ยินเสีงแมวร้องขู่อยู่ใต้ถุนจึงก้มลงไปดูก็พบกับงูสีน้ำตาลดำอยู่ในกะละมังพลาสติกสีดำที่เก็บของไว้ โดยงูตัวดังกล่าวแผ่แม่เบี้ยขู่แมว ตนจึงค่อยๆ เลื่อนกะละมังออกจากใจ้ถุนบ้านแล้วไปหยิบฉมวกกับฆ้อนมาเตรียมไว้ เมื่อนำงูออกจากถัง จึงใช้ฉมวกแทงที่กลางลำตัวก่อนที่จะก้มไปใช้ฆ้อนทุบให้ตายเพราะเกรงว่าจะเข้ามาทำร้ายตนและแมวที่เลี้ยงไว้อีก แต่จังหวะนั้นเองงูพ่นพิษใส่เข้าที่ดวงตาจนรู้สึกแสบร้อน ด้วยความตกใจจึงรีบโทรศัพท์หาลูกซึ่งอยู่ไม่ห่างกันเพื่อให้พาไปส่งโรงพยาบาล โดยไม่ลืมเอาซากงูติดไปด้วย เมื่อไปถึงแพทย์ได้ทำการักษาแล้วบอกให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ตอนนี้ยังมีอาการแสบที่ใบหน้าและดวงตา แต่ไม่มากนัก




ยายบัวหวั่น เล่าอีกว่า งูเห่าตัวนี้เข้ามาที่บ้านสองครั้งแล้ว ครั้งแรกมาที่หน้าบ้าน ตนก็ไล่จนหายไป แต่วันเกิดเหตุเข้ามาอยู่ใต้พื้นบ้านจึงต้องฆ่า เพราะกลัวว่าอาจจะทำอันตรายเราได้ โดยหลังจากกลับบ้าน มีเพื่อนบ้านมาบอกให้ระวังเนื่องจากไม่รู้ว่าจะมีงูเข้ามาอีกหรือไม่ เพราะงูพวกนี้จะอยู่เป็นคู่ เมื่ออีกตัวหายไปอีกตัวก็จะออกตามหา แต่ตนไม่กลัว หากจะมาทำร้ายก็ต้องฆ่าทิ้ง

ด้าน นายจิรวัฒน์ เอี่ยมละม้าย อาสาสมัครพิทักษ์งู มูลนิธิมิราเคิลออฟไลซ์ เปิดเผยว่า งูเห่าพ่นพิษที่พบใประเทศไทยมี 3 ชนิด แยกตามลักษณะสีของตัวงู คือ งูเห่าด่างพ่นพิษ, งูเห่าน้ำตาลพ่นพิษ และงูเห่าดำพ่นพิษ ซึ่งกรณีนี้เป็นงูเห่าด่างพ่นพิษ พบได้ทั่วไปใน จ.อ่างทอง พร้อมย้ำเตือนว่า หากพบเห็นงูลักษณะดังกล่าวควรอยู่ห่างอย่างน้อยประมาณ 3 เมตร เพราะงูเห่าสามารถพ่นพิษได้ถึง 2 เมตร ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน งูประเภทนี้จะออกหากินในช่วงเช้ามืดและช่วงพลบค่ำ ซึ่งหากพบเจอขอให้ออกให้ห่าง แล้วรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดำเนินการ