ผบช.สตม. ส่งเรือตรวจการณ์ เข้าสนับสนุนภารกิจการค้นหาผู้สูญหาย และตรวจสอบมลภาวะทางทะเล จากขยะและคราบน้ำมันของเรือเฟอร์รี่ลำที่ล่มกลางทะเลเกาะสมุย
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ภายใต้อำนวยการสั่งการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. สั่งการให้ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี นำเรือตรวจการณ์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกับผู้ประกอบการเรือสปีดโบ๊ตนำเที่ยว และนักประดาน้ำชาวต่างชาติ 3 คน เข้าสนับสนุนภารกิจในการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือเฟอร์รี่ ราชา 4 ล่ม บริเวณเกาะสี่ เกาะห้า ห่างจากเกาะสมุยประมาณ 5 ไมล์ทะเล และค้นหาตามเกาะแก่งต่าง ๆ รอบเกาะสมุย โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา และหลังเกิดเหตุมีผู้รอดชีวิต 11 ราย เสียชีวิต 3 ราย และสูญหาย 2 ราย คือ นายทิวากรณ์ วัชรฤทธิ์ (กลาสี) และนายไชยชาญ เหล่าทรัพย์ (คนขับรถพ่วง 18 ล้อ)
โดยจุดที่เกิดเหตุ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ได้นำนักประดาน้ำชาวต่างชาติ 3 คน ดำเข้าไปสำรวจรอบ ๆ ตัวเรือเพื่อค้นหาร่างผู้สูญหาย และตรวจสอบสภาพของตัวเรือ จากการสำรวจพบว่าเรือยังอยู่ในสภาพหงายท้อง ใต้น้ำสามารถมองเห็นได้ในระยะ 2-3 เมตร แต่ไม่พบผู้สูญหาย มองจากภายนอกตัวเรือเห็นรถพ่วง 1 คัน ส่วนขยะยังคงอยู่กับกระบะรถ และบางส่วนลอยติดกับเรือ
ต่อมาได้นำเรือตรวจการณ์สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ออกลาดตระเวนตามเกาะแก่งที่อยู่รอบ ๆเกาะสมย เพื่อค้นหาผู้สูญหาย และตรวจสอบว่ามีคราบน้ำมันและขยะของเรือเฟอร์รี่ลำที่ล่ม จะรั่วไหลลอยไปติดหรือตามเกาะหรือไม่ ซึ่งจะก่อให้เกิดมลภาวะทางทะเล กระทบต่อสิงแวดล้อม และสัตว์ทะเล
พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เผยว่า ตามที่ ผบช.สตม.สั่งการให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปฏิบัติภารกิจร่วมภารกิจกับทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยได้นำเรือตรวจการณ์ออกร่วมค้นหาผู้สูญหายอีก 2 คน โดยมีนักประดาน้ำชาวต่างชาติ 3 คน และเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองร่วมค้นหาตามแนวชายฝั่งเผื่อว่าจะพบผู้สูญหายลอยมา ติดอยู่ตามเกาะแก่งต่าง ๆ
"นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะต้องโดยสารทางเรือข้ามฟาก หรือไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ให้สวมเสื้อชูชีพตลอดระยะเวลาในการเดินทาง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง" พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ กรณีเรือล่ม อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ให้ทางบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด(มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการและเจ้าของเรือเฟอร์รี่ ราชา 4 ดำเนินกู้ซากรถพ่วง 1 คัน พร้อมกับขยะที่หลุดออกจากตัวเรือราชา 4 ขึ้นจากทะเลในวันที่ 11 ส.ค. นี้ พร้อมกับให้ทำแผนการกู้ซากเรือ รถพ่วงอีก 2 คันพร้อมกับขยะทั้งหมด ส่งให้ทางศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ฯ เพื่อรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ทราบและดำเนินการต่อไป