"ศรีสุวรรณ"จ่อยื่น ป.ป.ช.สอบอนุ กมธ.ไถเงิน 5-10 ล้าน

2020-08-09 09:17:19

"ศรีสุวรรณ"จ่อยื่น ป.ป.ช.สอบอนุ กมธ.ไถเงิน 5-10 ล้าน

Advertisement

"ศรีสุวรรณ"จ่อยื่น ป.ป.ช.สอบอนุ กมธ.งบประมาณไถเงิน 5-10 ล้าน

เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฎข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า ในระหว่างการประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในชุดคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ได้เกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากอนุกมธ.ไม่ยอมปล่อยผ่านงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จนทำให้นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ถึงกับระเบิดกลางที่ประชุมว่า มีอนุกรรมาธิการฯบางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาทแลกกับการผ่านงบประมาณให้นั้น ข่าวยังแจ้งด้วยว่า ไม่ได้มีเพียงแค่กรมน้ำบาดาลหน่วยงานเดียวเท่านั้นที่ถูกอนุกรรมาธิการฯชุดนี้เรียกเงินใต้โต๊ะ โดยอธิบดีบางกรมถูกเรียกเงินถึง 10 ล้านบาท แต่ไม่มีใครกล้าพูดกลางที่ประชุมเหมือนที่นายศักดาทำ โดยจะมีอนุกรรมการฯคนหนึ่ง คอยรวมเสียงอนุ กมธ.ไว้ คอยไล่บี้งบของหน่วยงานราชการที่ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านง่าย ๆ แลกกับการจ่ายเงินใต้โต๊ะ โดยร่วมกันทำเป็นขบวนการ ซึ่งกรณีดังกล่าวหากเป็นเรื่องจริง ถือว่าเป็นมะเร็งร้ายในระบอบอประชาธิปไตยของชาติ ซึ่งผู้ที่กระทำการดังกล่าวหากเป็น ส.ส. อาจเข้าข่ายการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.114 ม.184 ม.185 ประกอบ พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ ส.ส.คนดังกล่าว สิ้นสุดลงได้ ตาม ม.101(7)

นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.144 ยังห้ามกรรมาธิการมิให้ไปมีส่วนไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมในการใช้งบประมาณรายจ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดจัดทําโครงการหรืออนุมัติหรือจัดสรรเงินงบประมาณโดยรู้ว่ามีการดําเนินการ อันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติดังกล่าว ถ้าได้บันทึกข้อโต้แย้งไว้เป็นหนังสือหรือมีหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ ย่อมพ้นจากความรับผิด และเมื่อ ป.ป.ช.ได้รับแจ้งต้องดําเนินการสอบสวนเป็นทางลับโดยพลัน หากเห็นว่ากรณีมีมูล ให้เสนอความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อดําเนินการลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไปได้ แต่หากอนุ กมธ.งบประมาณดังกล่าวมิได้เป็น ส.ส. ก็ยังสามารถใช้ พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561มาดำเนินการเอาผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ตาม ม.128 ม.129 ประกอบ ม.4 ได้เช่นกัน  ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปแจ้งต่อ ป.ป.ช.ให้รีบเชิญอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมาให้ข้อมูล และดำเนินการไต่สวนและสอบสวนอนุ กมธ.งบประมาณทั้งหมดที่เกี่ยวข้องเพื่อทำความจริงให้ปรากฎและยับยั้งมะเร็งร้ายของชาติดังกล่าวต่อไป ซึ่งการสืบหาหรือไต่สวนกรณีดังกล่าวไม่ยากเพียงแต่นำรายงานการประชุม อนุ กมธ.งบประมาณมาสังเกตดูก็จะพบความผิดปกติของขบวนการนี้ได้ โดยสมาคมฯจะเดินทางไปแจ้งในวันจันทร์ที่ 10 ส.ค.63 เวลา 10.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช.