"สุวัจน์" ยินดี ครม.ใหม่ประชาชานรับได้ ขอเร่งฟื้นเศรษฐกิจ คนตกงาน เอสเอ็มอี
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ MCC Hall ศูนย์การค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมการเงินโคราช" จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-9 ส.ค. โดย นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตอนนี้ภาคธุรกิจ มีปัญหาจากเรื่องโควิด ปิดกิจการกันไปส่งผลกระทบต่อการว่างงาน คิดว่าลำดับต้น ของปัญหาของเศรษฐกิจของประเทศ ว่าจะต้องทำยังไงจะแก้ไขปัญหาการว่างงานจากแต่ละวัน โรงงานทุกแห่งหลายแห่งได้ปิดกิจการ ก็คาดการณ์กันว่า ถ้าเศรษฐกิจทรุดตัวลงไป ผลกระทบจากโควิดมากๆ ทุกประเทศทั่วโลกจะได้รับผลกระทบ เมืองไทยอาจจะกระทบ 6 -7 ล้านคน ฉะนั้นผมคิดว่าวิธีการ ที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เฉพาะหน้าขณะนี้ ก็คือทำอย่างไรให้กิจการ กลับมาเดินเคลื่อนต่อ โรงงานอุตสาหกรรม ทำงานได้ เพราะถ้ากิจการกลับมาเดินเครื่องเอสเอ็มอีกลับมาเดินเครื่อง ไมโครเอสเอ็มอี ร้านค้า ต่างๆ โรงงานต่างๆ กลับมาเปิดกิจการได้ ก็จะมีการจ้างงานต่อ วันนี้คิดว่าต้องทำยังไง ให้ทุกคนกลับมาติดเครื่องยนต์ในระบบเศรษฐกิจ Money Expro นำสถาบันการเงิน นำธนาคาร และก็นำข้อเสนอต่างๆ ที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อการให้เงิน เพื่อให้ภาคธุรกิจ ร้านค้าต่างๆ มีต้นทุนที่จะไปเปิดกิจการต่อ นอกจากที่จะทำให้เค้าอยู่ได้แล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจทั้งระบบ เป็นการแก้ไขปัญหาการว่างงานขั้นต้น เป็นกิจกรรมการเงินที่ดีมาก และครั้งนี้ก็เปิดเป็นครั้งแรกในรอบปี 2563 แต่จัดที่ จ.นครราชสีมา เป็นครั้งที่ 14
สำหรับประเด็นการปรับ ครม.ใหม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เป็นการรอคอยของพี่น้องถประชาชน เพราะเรามีสุญญากาศของรัฐมนตรี และของทีมเศรษฐกิจ ฉะนั้น การที่ได้มีการประกาศรายชื่อตนเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดบรรยากาศที่ดีในบ้านเมือง และทำให้พี่น้องประชาชนรู้สึกโล่งใจ เบาใจว่าตอนนี้จะมีทีมเศรษฐกิจมาแก้ไขปัญหาแล้ว และได้ดูจากรายชื่อที่ได้มีการประกาศมาแล้วถือว่าอยู่ในระดับที่เรารับกันได้ เราพอใจ ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็คงจะรอคอยกันว่าทีมเศรษฐกิจนั้นจะมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร
นายสุวัจน์ กล่าวว่า งานหนักที่ทีมเศรษฐกิจจะต้องเร่งในการทำคือการแก้ไขปัญหาการว่างงาน การแก้ไขปัญหาให้กิจการต่างๆ เขากลับมาทำงานได้ เพราะตัวเลขการว่างงานที่รออยู่ในวันข้างหน้าปลายปีหรือต้นปีอาจจะขึ้นไปถึง 6-7 ล้านคน เพราะธุรกิจปิดกิจการกันมาก สำคัญที่สุดวันนี้ความเป็นทีมเวิร์คของทีมเศรษฐกิจเป็นที่น่น่ายินดีที่เมื่อมีการปรับ ครม.เศรษฐกิจแล้ว ถึงแม้ว่าจะต่างพรรค เพราะเป็นรัฐบาลผสม ถ้าเราได้เห็นความเดือดร้อน เห็นวิกฤติและมีความร่วมมือกัน สามารถสร้างกลไกการทำงานของทีมเศรษฐกิจให้ทำงานเป็นทีมเดียวกัน เหมือนกับ พายเรือ พายพร้อมๆ กัน พายไปในทิศทางเดียวกัน ในที่สุดด้วยพื้นฐานต่างๆ ของระบบเศรษฐกิจที่เรามีก็ต้องฝ่าวิกฤติไปให้ได้
“ผมขอเป็นกำลังใจ เพาะหลายๆ คนถึงแม้จะไม่ได้อยู่วงการการเมือง มีฐานะ มีตำแหน่งที่อยู่ในงานเอกชนที่มีชื่อเสียง ที่สบายอยู่แล้วได้เสียสละในการเข้าสู่วงการการเมือง เพื่อมาแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ ส่วนความเชื่อใจว่าจะแก้ปัญหาของประเทศได้หรือเปล่านั้น คิดว่าดูอย่างรัฐมนตรีคลังถือเป็นกระทรวงหลักในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งก็มีพื้นฐานที่ดีสำหรับที่จะใช้ประสบการณ์กับวิกฤติเศรษฐกิจในขณะนี้ ผมเข้าใจดีว่า รมว.คลังคนนี้คงเข้าใจปัญหา ซึ่งทุกคนก็ฝากความหวังไว้ ถือว่าการปรับ ครม.ในส่วนทีมเศรษฐกิจครั้งนี้เท่าที่ฟังมา ถือว่าอยู่ในระดับที่พี่น้องประชาชนให้ความไว้วางใจ จากนี้ไปเป็นเรื่องของผลงาน และเป็นเรื่องนโยบายต้องชัดเจนแล้ว”นายสุวัจน์ กล่าว
ส่วนคำถามที่ว่าพรรคชาติพัฒนายอมเสียสละเพื่อชาติหรืออย่างไร นายสุวัจน์ฯ หัวเราะก่อนตอบว่า เรายินดีอยู่แล้ว เราก็ได้บอกไปแล้วว่าเราเสียสละ เราเคยเสียสละเพื่อชาติมาแล้ว เมื่อไปเข้า ครม.เที่ยวนี้ก็ถอยเพื่อชาติ เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีตำแหน่งที่จะปรับ ครม. และทำให้บรรยากาศของการปรับ ครม.ไม่กระเพื่อม ไม่มีความแตกแยก จะเห็นว่าเที่ยวนี้บรรยากาศของการปรับครม.เป็นไปได้ด้วยดี เท่าที่ดูก็ค่อนข้างที่จะนิ่ง และได้คนดีๆ เข้ามาทำงาน เราเห็นอย่างนี้เราก็รู้สึกสบายใจด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี เราก็ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่จะสนับสนุนในเรื่องของเสถียรภาพ