ฮือ! ขับไล่นายอำเภอปางมะผ้า บริหารงานไม่โปร่งใส

2020-08-05 18:05:35

ฮือ! ขับไล่นายอำเภอปางมะผ้า บริหารงานไม่โปร่งใส

Advertisement

ชาวบ้านจากชนเผ่าในพื้นที่ปางมะผ้าหลายตำบล 300 คน รวมตัวขับไล่นายอำเภอ ให้ย้ายออกจากพื้นที่ พร้อมกับให้ตรวจสอบโครงการภัยแล้งปี 62 ด้านผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ส่วนนายอำเภอแจงกับสื่อมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลังขับไล่ตน

วันที่ 5 ส.ค. นายภาคิน ภาคินสมบัติ แกนนำชนเผ่า ,นายเกรียงศักดิ์ พรภินันท์ประภา (กระจ่าง สมชายชาตรี) อดีต สจ.แม่ฮ่องสอน แบะ นายชาติชาย ตาหมี่ รองนายก อบต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า เป็นแกนนำ พร้อมด้วยชาวบ้านจากหลายชนเผ่าในพื้นที่ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 300 คน ได้เดินทางโดยรถยนต์ มารวมตัวกัน ณ ห้องประชุมศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อยื่นหนังสือ ขับไล่ นายอำเภอปางมะผ้า ให้ย้ายออกจากพื้นที่ โดยมีนายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย น.ส.ศันสนีย์ ทาสม รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เดินทางมารับหนังสือจากชาวบ้านโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากภูธรจังหวัด , สภ.เมือง และ อส.อำเภอเมือง มาคอยดูแลความปลอดภัย

โดย นายภาคิน ภาคินสมบัติ แกนนำชนเผ่า ได้ยื่นหนังสือให้นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายอำเภอปางมะผ้า และขอให้ย้ายออกจากพื้นที่ปางมะผ้าโดยด่วน นอกจากนี้กรณีที่เจ้าหน้าที่ ปปท.ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการแก้ปัญหาภัยแล้งของอำเภอปางมะผ้า จำนวน 39 โครงการ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการภัยแล้ง ปี 62 และโครงการอื่น ๆทุกโครงการของอำเภอปางมะผ้าว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นหรือไม่ มีการทำตามแบบที่กำหนดไว้ถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งให้ตรวจสอบผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ที่เกี่ยวข้องตามโครงการทั้งหมด นอกจากนี้ยังขอให้ย้ายนายอำเภอปางมะผ้าออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มชาวบ้านได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอปางมะผ้าเพื่อขับไล่นายอำเภอให้ออกจากพื้นที่และเดินทางมายื่นหนังสือให้ ผวจ.แม่ฮ่องสอน




ด้าน นายอำเภอปางมะผ้า ได้ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า “ การชุมนุมขับไล่ตนมีผู้มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง ก่อนหน้านี้ตนยังทราบว่าพยายามที่จะหาคนให้ได้ 2,000 คน เพื่อมาขับไล่ตน แต่เมื่อเอาจริงมีคนมาชุมนุมไม่กี่ร้อยคน บางคนมาจากนอกพื้นที่ ส่วนข้อหาที่ว่าตนทุจริตโครงการก่อสร้างวางกล่องเกเบียนทำพนังกั้นตลิ่งพังนั้น ตนมีการจัดซื้อจัดจ้างถูกต้องทั้งหมด ไม่มีซ้ำซ้อน และที่สร้างเพื่อป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมไร่นาของชาวบ้าน แต่ที่ไม่ตรงกับสัญญาคือ การนำเอาก้อนหินเล็กเข้าเพิ่มใส่ เพราะจากที่ใส่แต่หินก้อนใหญ่มันจะมีช่องที่ไม่มิดชิด และเงินที่เหลือจากโครงการก็ส่งคืนหลวงถึง 51 ล้านบาท ส่วนที่กล่าวหาว่า จับชาวบ้านบุกรุกป่าแต่ไม่จับนายทุน ตรงนี้ไม่ควรกล่าวหากันลอย ๆ มีนายทุนคนไหนที่ตนไม่จับให้บอกมา โดยเฉพาะมีการบุกรุกป่าด้านหน้าอำเภอจนไปทับทางน้ำไหลตรงนี้จะต้องจัดการอย่างเด็ดขาด

นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เบื้องต้นต้องหาข้อเท็จจริงก่อนว่าสิ่งที่ชาวบ้านเรียกร้องมีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง ซึ่งทางจังหวัดก็จะแต่งตั้งคณะทำงานลงไปหาข้อเท็จจริงในพื้นที่ หากมีข้อเท็จจริงปรากฏทางจังหวัดก็จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนของระบบราชการ ซึ่งข้อร้องเรียนของชาวบ้านเท่าที่เห็นตามป้ายส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องการบริหารงานและการใช้กริยาวาจาในที่ประชุมอาจจะไม่ถูกใจคนบางกลุ่ม และจะเรียกนายอำเภอมาพบในเร็ว ๆ นี้เพื่อให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย