ระดมสอบ! ครอบครัว “จารุชาติ” คนเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงคดี “บอส”

2020-08-05 15:40:45

ระดมสอบ! ครอบครัว “จารุชาติ” คนเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงคดี “บอส”

Advertisement

ตำรวจระดมสอบความเชื่อมโยงระหว่างนายจารุชาติ ครอบครัว และคนเกี่ยวข้องกับกระทิงแดง

จากข่าวครึกโครม กรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ทายาทเครื่องดื่มกระทิงแดง ที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2555 และต่อมาได้มีการดำเนินการสอบสวนพยานเกี่ยวข้อง จนกระทั่ง นายบอส หลุดพ้นคดีอัยการไม่สั่งฟ้อง ตามที่ปรากฎข้อมูลข่าวมาแล้วนั้น

ต่อมาทราบว่า พยานปากเอกคนสำคัญที่ให้ข้อมูลคือ นายจารุชาติ มาดทอง ซึ่งยืนยันว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ และระบุว่า ในวันเกิดเหตุ นายวรยุทธ หรือบอส ขับรถด้วยความเร็วเพียงไม่ถึง 80 กม./ชม. ขณะที่ล่าสุดวันนี้นายจารุชาติ มาดทอง พยานสำคัญในคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนช่วงกลางดึก เวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะขับขี่เฉียวชนกับรถจักรยานยนต์ ที่บริเวณแยกฟ้าธานี ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น




ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 ส.ค. นางตา วังมูล อายุ 76 ปี แม่ และนายสมาน วังมูล อายุ 65 ปี พ่อบุญธรรม รวมทั้งลูกสาวของนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี หนุ่มพยานสำคัญในคดีทายาทกระทิงแดง ที่ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวกับคู่กรณีจนเสียชีวิต พร้อมญาติพี่น้องกว่า 10 คนได้เดินทางมายัง สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เพื่อให้ปากคำกับ พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีการนำตัวนายสมชาย ตาวิโน อายุ 50 ปี คู่กรณีมาสอบปากคำในฐานะผู้ต้องหาในคดีนี้ ที่ต้องคดีในข้อหาขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งในการนี้เป็นการสอบตามกระบวนการของคดีที่เกิดขึ้นเพราะทั้งสองฝ่ายเฉี่ยวชนกัน แต่ตลอดระยะเส้นทางที่ทั้งสองขับรถมาด้วยความเร็ว มีการพูดคุย หยอกล้อตามประสาคนเมา และขับรถปาดกันไปปาดกันมา จนมาประสพเหตุ ทำให้นายสมชาย ถูกดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

นายสมาน พ่อบุญธรรมของนายจารุชาติ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสั้นๆว่า ในช่วงที่นายจารุชาติทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ทราบว่า ทำงานขับรถ และทำงานร้านตู้เกม ส่วนการเดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวันนั้นตนเองไม่ทราบว่าไปทำงานอะไร และเดินทางไปได้อย่างไร โดยตั้งแต่นายจารุชาติไปทำงาน ก็ส่งเงินมาให้ทางบ้านใช้จ่ายบ้างเป็นครั้งคราว ส่วนเรื่องกรณีไปเป็นพยานกระทิงแดง นั้นทางพ่อแม่ญาติพี่น้องไม่เคยรู้มาก่อนเลย ขณะที่นางตา แม่ของนายจารุชาติ ได้ขอร้องให้ผู้สื่อข่าวหยุดสัมภาษณ์ครอบครัว เนื่องจากนายจารุชาติได้ตายไปแล้ว จะเอาคนตายมาหากินอยู่อีกหรือ



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเรียกสอบปากคำแม่และพ่อ รวมทั้งลูกสาวของนายจารุชาติครั้งนี้ เพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับประวัติการทำงานของนายจารุชาติ ทั้งที่กรุงเทพฯ และที่ประเทศไต้หวัน โดยเฉพาะห้วงเวลาที่นายจารุชาติ ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ไต้หวัน เพื่อเชื่อมโยงไทม์ไลน์ว่าอยู่ในช่วงเดียวกันกับที่นายวรายุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ขับรถยนต์เฟอรารี่ชนตำรวจจนเสียชีวิตเมื่อปี 2555 หรือไม่

หลังจากนั้นทางทีมงานสอบสวนได้เรียกตัวพยานร้านคาราโอเกะ ที่นายสมชาย และนายจารุชาติ ไปนั่งดื่มโดยมีพนักงานกว่า 6 คนเดินทางมาให้ปากคำซึ่งจากการสอบถาม ส่วนใหญ่ก็ให้การตรงกันว่าก่อนเกิดเหตุนายสมชาย มาร้านก่อนและนั่งดื่มข้างในร้านส่วนนายจารุชาติ มาที่หลัง และนั่งดื่มหน้าร้าน พอร้านเลิกนายสมชาย เดินมาหน้าร้านและนั่ง ก่อนจะย้ายไปนั่งกับนายจารุชาติ และพูดคุยทักทาย และชวนกันไปต่อร้านอื่น

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางชุดสืบสวนภาค 5 กำลังจะเรียกตัวนายหมู นายล้าน และอดีต สว. คนดัง พร้อมคนที่เกี่ยวข้องกับนายจารุชาติ มาให้ปากคำโดยจะเน้นเรื่องราวความสัมพันธ์เชื่อมโยงต่างๆ ของทั้งหมด



ด้านนายสมชาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนได้ไปดื่มเหล้าที่ร้านย่านถนนราชพฤกษ์ ได้เรียกหญิงสาวมาด้วยสองคน ตนเห็นนายจารุชาติ นั่งดื่มเบียร์คนเดียวก่อนหน้าแล้วกระทั่งร้านจะปิดเบียร์ของนายจารุชาติ ยังไม่หมดเจ้าของร้านเลยขอให้ออกมานั่งดื่มหน้าร้านกระทั่งหมดสุราและตนกำลังจะกลับนายจารุชาติ ได้เดินมาหาและถามตนว่าจะไปต่อที่ไหน ตนบอกว่าจะไปต่อร้านแถวสันติธรรม นายจารุชาติ จึงขอไปด้วย ตนก็เลยยอม จึงขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมาและพูดคุยกันมาเรื่อยกระทั่งมาถึงบริเวณถนนห้วยแก้วขาเข้าเมือง แยกฟ้าธานี นายจารุชาติ ก็ได้ขับรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของตนจนตนกระเด็นตกไปยังเกาะกลางส่วนนายจารุชาติ ล้มที่ขอบฟุตบาท โดยวันนี้ที่ตนมานั้นต้องการมาขออโหสิกรรมกับครอบครัวของนายจารุชาติ และต้องการขอให้ทางครอบครัวเยียวยาตนเองด้วยเนื่องจากหลังตนได้รับบาดเจ็บไม่ได้ไปทำงานเลยรถจักรยานยนต์ก็เสียและถูกตำรวจยึดเป็นของกลาง