"จุรินทร์" ลั่นพร้อมจับมือทุกฝ่ายแก้ไข รธน.ชี้ต้องตั้งหลักที่มาตรา 256
เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วย นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ วิปรัฐบาล นายอิสสระ สมชัย นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค แถลงถึงแนวทางของพรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นลำพังพรรคเดียวไม่สามารถทำได้ เพราะต้องใช้ 100 เสียงขึ้นไป แต่ประชาธิปัตย์มีเพียง 52 เสียง ทางที่ดีที่สุดในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็คือ ควรจะต้องร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาลในการเสนอร่างร่วมกัน โดยมอบหมายให้วิปได้ไปหารือกันในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า การกำหนดประเด็นเพิ่มเติมนอกจากการแก้ไขมาตรา 256 ที่เป็นจุดยืนของพรรคตั้งแต่ต้น พรรคจึงตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อเป็นผู้กำหนดประเด็นและรายละเอียดทั้งหมด เพื่อที่จะนำไปสู่การหารือร่วมกันในวิปพรรคร่วมรัฐบาล โดยคณะทำงานดังกล่าวประกอบด้วย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ และมีฝ่ายกฎหมายเป็นเลขานุการ ผู้สื่อข่าวถามว่า รูปแบบการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร นายจุรินทร์ ตอบว่า รายละเอียดจะขึ้นอยู่กับประเด็นที่จะได้ไปหารือกันในวิปพรรคร่วมรัฐบาล อย่างน้อยที่สุดควรแก้มาตรา 256 ซึ่งเป็นจุดยืนที่ชัดเจนของประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ต้น
เมื่อถามว่า มีการหารือว่าจะไปพูดคุยกับพรรคร่วมอื่นๆ หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วิปจะเป็นผู้ทำหน้าที่ดังกล่าว เพราะมีวิปรัฐบาลอยู่แล้ว ซึ่งจะประสานงานโดยนายชินวรณ์ และนำประเด็นทั้งหมดจากคณะทำงานที่กำหนดประเด็นนี้ไปหารือ ซึ่งพรรคได้กำหนดประเด็นไว้ในเบื้องต้นแล้ว เพียงแต่ไปหารือกันเพื่อหาข้อสรุปเพิ่มเติมเท่านั้น เพราะประชาธิปัตย์นั้นมีความชัดเจนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตั้งแต่ต้นแล้ว ทั้งเรื่องมาตรา และประเด็นที่ควรจะต้องแก้ไขเพื่อให้นำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น ส่วนจะเริ่มคุยกันเมื่อไหร่นั้น ก็เป็นเรื่องที่วิปจะได้ไปหารือกัน
ต่อข้อถามถึงท่าทีประธาน ส.ว. ที่ออกมาคัดค้านการตั้ง ส.ส.ร. นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขอไม่ให้ความเห็นในเรื่องนี้ ประชาธิปัตย์ไม่ประสงค์จะขัดแย้งกับฝ่ายใด เพราะผลสัมฤทธิ์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ว่าจะแก้ไขในมาตราใดก็ตามต้องอาศัยความร่วมมือทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา และประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพราะมีการกำหนดไว้ในเงื่อนไขว่าทุกฝ่ายดังกล่าวจะต้องเห็นพ้องต้องกัน ซึ่งในส่วนของวุฒิสภานั้น ในขณะนี้ก็ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่าจะแก้ไขในประเด็นไหนอย่างไรบ้าง แต่หวังว่าอยากเห็นความร่วมมือและอยากเห็นการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกด้วย เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จได้นั้นวุฒิสภาก็ต้องสนับสนุน มิฉะนั้นก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
ด้านนายชินวรณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้วิปรัฐบาลได้คุยเรื่องดังกล่าวอยู่ตลอด ซึ่งจากนี้ตนจะได้นำผลการประชุมพรรคไปหารือในที่ประชุมวิปรัฐบาล เพราะวิปต้องฟังทั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 รวมถึงเสียงของพรรคการเมืองต่างๆด้วย เมื่อถามถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยที่ยังไม่ชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชินวรณ์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังทุกพรรคเห็นด้วยในการแก้ไข แต่คงต้องคุยในรายละเอียดต่อไป