"อัจฉริยะ" พาพ่อ-แม่ "น้องไตเติ้ล" เดินหน้าฟ้อง ผอ.โรงพยาบาล สลับศพลูก ก่อนเร่งนำไปฌาปนกิจแบบมีพิรุธ
เมื่อวันที่ 4 ส.ค. จากกรณี นางสาวกฤษณา ขวัญศรี ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยต้องนอนทนปวดท้องกว่า 2 ชั่วโมง แต่พยาบาลไม่ยอมให้เบ่งลูกออก จนทนไม่ไหวเบ่งคลอดลูกออกมา ซึ่งพบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว โดยแพทย์บอกว่าลูกชายของเธอเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ แต่ นางสาวกฤษณา และสามี ไม่ปักใจเชื่อ เพราะมีการตรวจครรภ์ก่อนคลอดซึ่งพบว่าลูกยังดิ้นอยู่โดยมีชีพจรยังปกติ จึงต้องร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายและครอบครัว แต่เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีกเมื่อโรงพยาบาลสลับศพลูกกับครอบครัวอื่นและถูกเผาไปแล้ว ทำให้ทางครอบครัวผู้เสียหายมั่นใจว่าเป็นกระบวนการทำลายหลักฐานของคนที่มีส่วนกระทำผิด จึงเข้าแจ้งความเพิ่มเติม และเมื่อวานที่ผ่านมาทางผู้บริหารของโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ได้แถลงข่าวขอโทษและยอมรับผิดกับเหตุการณ์สลับศพทารกที่เกิดขึ้น โดยรับปากว่าจะสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษคนผิดภายใน 7 วัน
ล่าสุด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นายอณวัฒต์ เปี่ยมศิริ และนางสาวกฤษณา ขวัญศรี พ่อ-แม่น้องไตเติ้ล เดินทางไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท เพื่อพบกับนายแพทย์พัลลภ ยอดศิรจินดา นายแพทย์สาธรณสุขจังหวัด เพื่อร้องทุกข์ขอให้สอบสวนเอาผิดกับ แพทย์หญิงณัฐพร ประกอบ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร ทีมแพทย์ และพยาบาล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ห้องเก็บรักษาศพ จากเหตุการณ์จำหน่ายศพสลับกับบุตรสาวของนายชัยวัฒน์ กุลทอง โดยนำศพน้องไตเติ้ล ไปเผาที่วัดศรีวิชัยวัฒนาราม อย่างเร่งรีบ โดยมีพยาบาล และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลไปร่วมงานอย่างมีพิรุธ
ขณะที่ นายแพทย์พัลลภ กล่าวว่า ในเรื่องนี้ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมา โดยเชิญนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชจากโรงพยาบาลอุทัยธานี มาเป็นประธานคณะเพื่อทำการสอบสวน ซึ่งพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยจะนำเรื่องนี้เข้าคณะกรรมการพิจารณาชาวยาเหลือเยียวยาอย่างเร่งด่วน ส่วนด้านคดีความให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ด้านนายชัยวัฒน์ ที่รับศพน้องไตเติ้ล ไปเผา ยืนยันกลางห้องประชุม ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือร่วมมือกับใครในการทำลายศพน้องไตเติ้ล เพื่อปิดบังสาเหตุการตาย เพราะตนได้ไปรับศพลูกสาวที่คลอดก่อนกำหนดเสียชีวิต และด้วยความที่ครอบครัวยากจนจึงขอให้โรงพยาบาลเป็นธุระจัดการเผาศพให้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ร่วมมือหรือรู้เห็นใดๆ และตนทำไปด้วยความสุจริตใจ