“วิชา” ตั้งคณะทำงาน 4 ชุด สอบกรณีอัยการสั่งไม่ฟัอง “บอส”คู่ขนานชุดใหญ่ให้แล้วเสร็จใน 30 วัน ถกนัดต่อไป 5 ส.ค.
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีอัยการไม่สั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการว่า ภายหลังการหารือที่ประชุมมีแนวทางที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญมีการให้ข้อมูลที่หลากหลายเพิ่มเติม โดยเฉพาะข้อสังเกตที่ดีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยในวันนี้มีการตั้งคณะทำงาน 3-4 ชุด โดยชุดแรกตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบอัยการ โดยมีนายบวรศักดิ์ สุวรรณโณ เป็นประธาน ชุดที่ 2 ด้านการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีนายเข็มชัย ชุติวงศ์ เป็นประธาน ชุดที่ 3 ด้านการตรวจสอบบุคคลทั่วไป มีนายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน และชุดที่ 4 ตรวจสอบด้านกฎหมายมี นายปกรณ์ นอลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นประธาน
นายวิชา กล่าวต่อว่า จะมีการเก็บรวบรวมเอกสารจาก โซเชียลมีเดีย คลิปวิดีโอต่างๆ รวมถึงความเห็นประชาชน ที่มีความหลากหลาย และเปิดบล็อกให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็น และมีส่วนร่วม หากมีข้อแนะนำดีดี จะนำมาประกอบ พร้อมกับทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ ในเบื้องต้นใครมีอะไรติดต่อส่งข่าวสาร หรือคับข้องใจ ทั้งเจ้าหน้าที่อัยการ หรือ ผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งตนอยากได้ทุกความเห็นส่งเข้ามา โดยคณะกรรมการยินดีรับฟังทั้งหมด ส่วนการทำงานเป็นแบบคู่ขนานกรรมการชุดใหญ่ ประชุมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เนื่องจากเร่งรัดให้แล้วเสร็จใน 30 วัน และรีบตั้งคณะทำงานตรวจสอบตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ส่วนเรื่องสำนวนคดีที่จะขอจากอัยการนั้น นายวิชา กล่าวว่า ตนทราบว่าอัยการจะมีการตรวจสอบสิ้นสุดตรวจสอบวันพรุ่งนี้ โดยในเบื้องต้น จะต้องเชิญเลขานุการของคณะกรรมาการแต่ละชุดมาให้ถ้อยคำ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยึดตามนั้น รวมไปถึงจะมีการขอสำนวนจากทั้งอัยการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งแต่ต้นทั้งหมดมาประกอบการตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้การตรวจสอบพยานที่เสียชีวิต หากพบมีข้อพิรุจจะนำมาเชื่อมโยงกัน ซึ่งทางกองปราบเพิ่งลงไปสอบสวนคดี
ส่วนจะมีการเชิญตัวนายวราวุธ อยู่วิทยา มาให้ข้อมูลหรือไม่นั้น นายวิชา ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องเชิญนายวราวุธมาให้ถ้อยคำ ซึ่งต้องเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด โดยมอบหมายคณะทำงานไปแล้ว และจะเร่งพิจารณาว่าควรเชิญหรือไม่เชิญนายวราวุธมาให้ถ้อยคำ โดยการประชุมครั้งต่อไปจะมีการประชุมในวันที่ 5 ส.ค.เวลา 10.00 น. ตึกสำนักงาน ก.พ.