รพ.ชัยนาทแถลงชี้แจงไม่มีเจตนาสลับศพเด็กทารกนำไปทำลาย เตรียมลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่ห้องดับจิตปฏิบัติงานผิดพลาด
จากกรณีที่ น.ส.กฤษณา ขวัญศรี ได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยต้องนอนทนปวดท้องกว่า 2 ชั่วโมง แต่พยาบาลไม่ยอมให้เธอเบ่งลูกออก จนทำให้เธอต้องสูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะหลังจากที่เธอทนไม่ไหวเบ่งคลอดลูกออกมา แพทย์บอกว่าลูกชายของเธอไม่หายใจและเสียชีวิตแล้ว โดยอ้างว่าเด็กเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทำให้เธอและสามีไม่ปักใจเชื่อเพราะการตรวจครรภ์ก่อนคลอดลูกยังดิ้น ชีพจรยังปกติ จึงต้องการร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายและครอบครัว แต่ก็เกิดเรื่องอื้อฉาวซ้ำขึ้นมาอีกเมื่อทางโรงพยาบาลได้จ่ายศพผิดโดยเอาศพสลับกับครอบครัวอื่น และถูกเผาไปแล้ว ทำให้ทางครอบครัวผู้เสียหายมั่นใจว่าเป็นกระบวนการทำลายหลักฐานของคนที่มีส่วนกระทำผิด จึงเข้าแจ้งความเพิ่มเติม ตามที่เราเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด พญ.ณัฐพร ประกอบ ผอ.โรงพยาบาลดังกล่าว ได้ตั้งโต๊ะชี้แจงต่อสื่อมวลชนในกรณีข้อสงสัยดังกล่าว โดยไหว้ขอโทษผ่านสื่อมวลชนไปยังครอบครัวผู้เสียหาย พร้อมเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดการจำหน่ายศพทารกผิดนั้นทางโรงพยาบาลยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด ที่เกิดจากบุคลากรของโรงพยาบาลเองที่ไม่รอบคอบในการตรวจสอบศพก่อนส่งมอบ ทำให้เกิดความเสียหายขึ้น จนเป็นกระแสรุนแรงว่าทางโรงพยาบาลใช้ขบวนการในการทำลายหลักฐาน เพื่อปิดบังสาเหตุการเสียชีวิตของทารก ที่มีกรณีพิพาทอยู่กับครอบครัวของ น.ส.กฤษณา
อย่างไรก็ตาม พญ.ณัฐพร ย้ำหนักแน่นว่า ทางโรงพยาบาลไม่ได้ต้องการกระทำตามที่มีข้อสงสัย เพราะการพิสูจน์สาเหตุการตายด้วยการผ่าศพนั้น ทางโรงพยาบาลเองด้วยซ้ำที่แนะนำทางครอบครัวผู้เสียหายให้ส่งศพผ่า เพื่อคลายข้อสงสัย ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในกรณีจำหน่ายศพผิดตัวขึ้น และคาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปและบทลงโทษภายใน 7 วัน ซึ่งการสอบสวนคงจะเน้นไปที่เจ้าหน้าที่ห้องเก็บรักษาศพที่เป็นกุญแจสำคัญในขั้นตอนการส่งมอบศพ ซึ่งหากพบว่า มีความผิดก็ต้องถูกลงโทษทางวินัย อาจจะหนักเบาตามมูลเหตุที่พบ
ส่วนเรื่องที่หมอพยาบาลไปร่วมกันเผาศพนั้น เป็นเรื่องปกติที่หมอพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยถ้าทราบว่ามีการตายและเป็นศพอนาถา ก็จะช่วยเหลือและไปร่วมแสดงความเสียใจทุกราย ส่วนสาเหตุการตายของทารกนั้นขอให้รอผลการผ่าพิสูจน์จาก รพ.สวรรค์ประชารักษ์ก่อน จึงจะฟันธงได้ว่าตายก่อนหรือหลังคลอด ในส่วนการเจรจาชดใช้เยียวยาครอบครัวของ น.ส.กฤษณานั้น ทางโรงพยาบาลอยู่ระหว่างติดต่อประสานไป ซึ่งยังไม่ได้รับคำตอบว่า จะเข้ามาพูดคุยหรือตกลงกันเมื่อไหร่ เพราะยังอยู่ระหว่างความโศกเศร้า