ตร.กองปราบ บุก 3 จังหวัดทลาย"แก๊งค้ารถข้ามชาติ"

2020-08-03 11:40:37

ตร.กองปราบ บุก 3 จังหวัดทลาย"แก๊งค้ารถข้ามชาติ"

Advertisement

ผู้การกองปราบ นำกำลังบุกตรวจค้น 3 จังหวัด ทลาย "แก๊งค้ารถข้ามชาติ" มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 3 ส.ค. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม แถลงการจับกุมแก๊งค้ารถข้ามชาติ โดยสามารถตรวจยึดรถยนต์ได้ 26 คันมีหลากหลายยี่ห้อ รวมถึงป้ายทะเบียน สมุดเล่มรถ และเอกสารต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก โดบ พล.ต.ต.จิรภพ เปิดเผยว่า ได้นำกำลังตรวจค้น 3 จังหวัด 7 จุด เข้าจับกุมแก๊งเครือข่ายลักลอบนำรถยนต์มาดัดแปลง และส่งออกไปยัง สปป.ลาว มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ขบวนการนี้แบ่งเป็น2 ชุดอยู่ในพื้นที่ จ.มุกดาหาร และ จ.อุบลราชธานี โดยตำรวจเฝ้าติดตามมานานกว่า 6 เดือน กระทั่งสืบทราบว่าทั้งหมดเป็นขบวนเดียวกัน จะรับออเดอร์มาจากนายทุนฝั่ง สปป.ลาว ส่วนมากรถยนต์ซึ่งเป็นที่นิยม คือ รถยนต์กระบะ อาทิ ยี่ห้อโตโยต้าวีโก้ และฟอร์จูนเนอร์

พล.ต.ต.จิรภพ ระบุอีกว่า สำหรับรถยนต์ที่ตรวจพบ ส่วนใหญ่เป็นรถหนีไฟแนนซ์ และหลุดจำนำ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการนำซากรถชนไปเข้าอู่แล้วตัดเลขตัวถังรถจากคันเก่าใส่คันใหม่ แล้วใช้การเชื่อมเหล็กปิดทับ จากนั้นทำป้ายทะเบียนสวมทับอีกทอดหนนึ่ง ก่อนให้คนนำเล่มทะเบียนรถพร้อมเอกสารไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจเพื่อข้ามไปส่งนายทุนฝั่ง สปป.ลาว ขณะที่รถบางคันมีการนำเอกสารกลับเข้ามาในประเทศไทย แต่ไม่มีรถขับกลับมาด้วย นั่นทำให้ตำรวจตั้งข้อสงสัยว่า กรณีนี้อาจมีเจ้าหน้าที่รู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่ และอาจนำเอกสารรถมาใช้สวมกับรถคันอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน ที่สำคัญ คือ จากการตรวจสอบพบว่าขบวนการดังกล่าวทำมาแล้วกว่า 3 ปี




พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะนำรถทั้งหมดส่งไปกองพิสูจน์หลักฐานกลางเพื่อทำการตรวจสอบ จากนั้นจะให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีทั้งหมด 5 คนที่อยู่ในฝั่งไทย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ปลอมและใช้เอกสารของทางราชการปลอม, แจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ นําหรือพาของที่ยังมิได้เสียค่าภาษีหรือของต้องจํากัด หรือของต้องห้ามหรือที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักรไทยหรือออกไปนอกพระราชอาณาจักร พร้อมจะเร่งขยายผลว่ามีการนำรถยนต์ที่สวมทะเบียนดังกล่าวไปก่อเหตุอาชญากรรมหรือไม่ ส่วนนายทุนฝั่ง สปป.ลาว ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใคร