"ศักดิ์สยาม" สั่งกรมทางหลวงเร่งซ่อมแซมสะพานขาด ถนนขาดด่วน เผยทางหลวง 7 จังหวัดถูกน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีหลายพื้นที่ของประเทศมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลให้ถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวง (ทล.)ในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศได้รับความเสียหาย บางพื้นที่ถนนถูกตัดขาด คอสะพานขาด ทำให้ประชาชนในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้นั้น ในเรื่องนี้ได้มีการสั่งการให้กรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ ที่ได้รับความเสียหาย และแก้ไขซ่อมแซม ทอดสะพานเบลีย์ (สะพานเหล็ก) แจ้งประชาสัมพันธ์ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ บอกเส้นทางเลี่ยงให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ภายใน 24 ชั่วโมง หรือหากบางพื้นที่จะต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยก็ต้องเข้าช่วยเหลืออย่างโดยเร็ว
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า วันนี้ (2 ส.ค. 63) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เลย และอีกหลาย พื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้รับรายงานว่ามีทางเบี่ยงสะพานขาด 3 จุด ในโครงการก่อสร้าง ทล.118 ตอนดอยสะเก็ด - ป่าเมี่ยง ตอน 2 ที่บริเวณ กม.32+260 , กม.32+942 , กม.39+880 และในพื้นที่ จ.เชียงราย ในโครงการก่อสร้าง ทล.118 ตอน บ.ปางน้ำถุ - บ.โป่งป่าตอง ตอน 2 ทางเบี่ยงสะพานขาด 2 จุด ประกอบไปด้วย บริเวณ กม.58+679 , กม.61+632 โดยขณะนี้ทางแขวงทางหลวงเชียงใหม่ที่ 2 และเชียงรายที่ 1 ได้ส่งเครื่องจักรเข้าพื้นที่แล้ว และเตรียมวัสดุ เพื่อซ่อมแซม และวางท่อเหลี่ยมเพิ่ม เพื่อคืนสภาพในทุกจุด รวมททั้งการทอดสะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็ก) ที่สะพานขาด คาดว่าจะเปิดเส้นทางให้ประชาชนสัญจรได้ภายในคืนนี้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ สำนักงานเขตทางหลวง แขวงทางหลวง ทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบาย รมว.คมนาคม
นายสราวุธ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวง พบว่า ทางหลวงได้ถูกน้ำท่วม จำนวน 7 จังหวัด (10 สายทาง จำนวน 17 แห่ง) ได้แก่ จ.เชียงราย (ทล.118) จ.เชียงใหม่ (ทล.118,ทล.121) จ.น่าน (ทล.101,ทล.1091) จ.ลำปาง (ทล.120) จ.เลย (ทล.2108,ทล.2249) จ.หนองบัวลำภู (ทล.210) และ จ.มหาสารคาม (ทล.2322) โดยทางหลวงที่การจราจรไม่สามารถผ่านได้มี 8 แห่ง ดังนี้ ทล.118 ที่ กม.32+269 ,กม.32+942,กม.39+880 กม.58+679 ,กม.61+632 ทล.121 ที่ กม.4+000 ทล.2018 ที่ กม.0+194 และ ทล.2249 ที่ กม.16+250