รพ.เปิดศึกชิงเถ้ากระดูกทารกน้อยเสียชีวิตหลังคลอดสลับร่างเผา ด้านพ่อแม่ขออำนาจพนักงานสอบสวนรับเถ้ากระดูกหนูน้อยไปเก็บรักษา เตรียมส่งตรวจเทียบดีเอ็นเอ ยืนยันฟ้องเอาผิด รพ.ถึงที่สุด
จากกรณีที่แม่ท่านหนึ่งได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยต้องนอนทนปวดท้องกว่า 2 ชั่วโมง แต่พยาบาลไม่ยอมให้เธอเบ่งลูกออก จนทำให้เธอต้องสูญเสียลูกชายไปอย่างไม่มีวันกลับ เพราะหลังจากที่เธอทนไม่ไหวเบ่งคลอดลูกออกมา แพทย์บอกว่าลูกชายของเธอไม่หายใจและเสียชีวิตลง โดยอ้างว่าเด็กเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทำให้เธอและสามีไม่ปักใจเชื่อเพราะการตรวจครรภ์ก่อนคลอดลูกยังดิ้น ชีพจรยังปกติ จึงต้องการร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายและครอบครัว แต่ก็เกิดเรื่องอื้อฉาวซ้ำขึ้นมาอีกเมื่อทางโรงพยาบาลได้จ่ายศพผิดโดยเอาศพสลับกับครอบครัวอื่น และถูกเผาไปแล้ว ทำให้ทางครอบครัวผู้เสียหายมั่นใจว่าเป็นกระบวนการทำลายหลักฐานของคนที่มีส่วนกระทำผิด จึงเข้าแจ้งความเพิ่มเติมเมื่อคืนที่ผ่านมา ตามที่เราเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดนายอณวัฒต์ และ น.ส.กฤษณา พ่อและแม่ของทารกเดินทางไปยังเมรุวัดศรีวิชัยวัฒนารามในตัวเมืองชัยนาท เพื่อสอบถามถึงการเผาศพตามที่รับแจ้ง ซึ่งสัปเหร่อของวัดบอกว่า เมื่อวันที่ ส.ค.ที่ผ่านมา เมื่อช่วงบ่ายมีแพทย์พยาบาล จำนวน 6-7คน พร้อมด้วยชายคนหนึ่งที่รับว่าเป็นพ่อของเด็ก เอาร่างของน้องมาขอเผาโดยไม่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ขอเพียงพระมาสวดบังสุกุลแล้วขอเผาเลย โดยเถ้ากระดูกสัปเหร่อได้ห่อผ้าขาวเตรียมไว้ให้ แต่ชายที่รับว่าเป็นพ่อเด็กไม่เดินทางมารับ แต่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาแจ้งว่าจะขอรับเถ้ากระดูกไปแทน แต่นายอณวัฒต์กับภรรยามาพบเสียก่อนจึงคัดค้านไม่ให้ทางโรงพยาบาลนำไปเพราะทางครอบครัวต้องการเถ้ากระดูไปตรวจเทียบดีเอ็นเอ ยืนยันว่าเป็นลูกชายตนและทางโรงพยาบาลมีความพยายามทำลายหลักฐานการตายของลูกชายตนจึงเข้าโรงพักเมืองชัยนาท ขออำนาจพนักงานสอบสวนขอเถ้ากระดูกไปเก็บไว้เองอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าจะฟ้องร้องเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตายและขบวนการทำลายหลักฐานทั้งหมดให้ถึงที่สุด