ตำรวจออสเตรเลียเผย เครื่องบินเล็กที่ตกเพียงไม่นาน หลังบินขึ้นจากสนามบินในประเทศเกาะปาปัวนิวกินี เมื่อต้นสัปดาห์ บรรทุกโคเคนหนักเต็มลำ และกำลังจะออกเดินทางไปออสเตรเลีย
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “ความโลภมาก” ของแก๊งค้ายาเสพติด คือสาเหตุการตกของเครื่องบินแบบเซสนา เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ก.ค. ซึ่งบรรทุกโคเคนรวมน้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 80 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1,791 ล้านบาท)
ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 6 คน ทั้งหมดเป็นสมาชิกแก๊งค้ายาเสพติดชาวอิตาลี ในเมืองเมลเบิร์น รัฐวิคตอเรีย ทางภาคใต้ฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย
แถลงการณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติออสเตรเลีย หรือ เอเอฟพี (Australian Federal Police) เมื่อวันเสาร์ กล่าวว่า ตำรวจออสเตรเลียเฝ้าจับตามองพฤติกรรมแก๊งนี้ มานาน 2 ปีแล้ว เครื่องบินเล็กลำดังกล่าวบินขึ้นจากเมืองมารีบา ทางเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.และบินเหนือผิวน้ำทะเลในระดับต่ำ เพื่อหลบหลีกการตรวจจับของเรดาร์ ก่อนจะลงจอดที่สนามบินชนบทในเมืองปาปา ลีอา ลีอา ทางเหนือของกรุงพอร์ตมอร์สบี เมืองหลวงปาปัวนิวกินี และขนถ่ายโคเคนขึ้นเครื่อง เพื่อจะบินกลับไปยังออสเตรเลีย “แต่เพราะความโลภของแก๊งยาเสพติด ที่พยายามขนโคเคนขึ้นเครื่องบินให้มากที่สุด” ทำให้เครื่องบินรับน้ำหนักไม่ไหว และตกลงสู่พื้น
ตำรวจพบซากเครื่องบินเซสนา ในสภาพว่างเปล่า ตกอยู่ไม่ไกลจากสนามบินเมืองปาปา ลีอา ลีอา และต่อมาพบโคเคนบรรจุในถุงกระสอบ 28 ถุง พร้อมกับธนบัตรดอลลาร์ออสเตรเลียจำนวนหนึ่ง ก่อนที่นักบิน ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลียจะเข้ามอบตัว ต่อสถานกงสุลออสเตรเลียประจำปาปัวนิวกินี เมื่อวันอังคาร (28 ก.ค.) และถูกตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
หลังจากเครื่องบินออกเดินทางสู่ปาปัวนิวกินี ตำรวจออสเตรเลียบุกจับกุม สมาชิกแก๊งอาชญากรรมชาวอิตาลี 5 คน ในรัฐควีนส์แลนด์และรัฐวิคตอเรีย และต้องข้อหาฟ้องศาลดำเนินคดี ซึ่งหากศาลตัดสินว่ามีความผิด อาจถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต.