เวียดนามเคยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสถิติดีที่สุดในโลก ในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่าจะมีพรมแดนติดกับจีน หุ้นส่วนการค้าใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบการระบาดของไวรัสมรณะ แต่หลังจากกว่า 3 เดือนที่ไม่มีรายงานการติดเชื้อในท้องถิ่น ขณะนี้กลับมีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน 6 เมืองและจังหวัดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเจ้าหน้าที่ในเวียดนาม ซึ่งปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ กำลังพยายามอย่างหนักในการควบคุมการระบาดครั้งใหม่
เวียดนาม ประเทศที่มีประชากรมากกว่า 95 ล้านคน เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกที่ไม่มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 จนถึงขณะนี้ มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วประเทศเพียง 459 คนเท่านั้น น้อยกว่าประเทศใหญ่อื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไม่มีรายงานการระบาดในท้องถิ่นเป็นเวลา 100 วันจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เวียดนามรายงานพบผู้ติดเชื้อ 42 คน เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้อคนแรกในการระบาดรอบใหม่ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเมืองดานัง เมืองรีสอร์ทท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลยอดนิยม ผลกระทบที่อยู่ในวงจำกัดจากการระบาดของไวรัส เป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมเวียดนามจึงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในภูมิภาคที่ยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตได้ในปีนี้
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข ระบุว่า มาตรการตอบโต้อย่างรวดเร็วของเวียดนาม เป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นผลของวิธีการจัดการการระบาดของไวรัส เวียดนามระดมสรรพกำลังตรวจและติดตามเชื้ออย่างรวดเร็วกว่าประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ และกักบริเวณประชาชนหลายหมื่นคน เพียงแค่สงสัยว่าจะไปสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่ติดเชื้อ หรือกลับมาจากต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างกว้างขวาง
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศแรก ๆ ที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มข้นในช่วงปลายเดือนเมษายน หลังจากไม่มีรายงานการติดเชื้อในประเทศ บาร์กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งและฝูงชนกลับมาใช้ชีวิตตามท้องถนน, การแข่งขันฟุตบอล เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และแม้ว่ามีการสนับสนุนการใช้หน้ากากอนามัยเพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัส แต่ก็มีหลายคนเริ่มไม่ใช้หน้ากากอนามัย
เวียดนามเริ่มพลิกฟื้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศ และพบผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นชายวัย 57 ปี จากเมืองดานัง ตั้งแต่นั้นมา ก็มีรายงานผู้ติดเชื้อรอบเมืองดานังอย่างน้อย 30 คน และรายอื่น ๆ อีกในกรุงฮานอย, นครโฮจิมินห์ ซิตี้ ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศ และที่ราบสูงตอนกลาง พื้นที่ปลูกกาแฟสำคัญของประเทศ
รัฐบาลเวียดนามแถลงว่า การระบาดครั้งนี้เป็นไวรัสสายพันธุ์ที่แตกต่างจากการระบาดรอบแรกที่ตรวจพบในเวียดนาม ซึ่งระบุว่า มาจากต่างประเทศมากกว่าที่จะฝังตัวอยู่ในชุมชน กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม แถลงว่า แหล่งของการติดเชื้อครั้งใหม่ ยังไม่มีความชัดเจน หนึ่งในผู้ติดเชื้อเป็นพลเมืองชาวอเมริิกัน เริ่มปรากฏอาการครั้งแรกในเมืองดานังเมื่อประมาณวันที่ 26 มิถุนายน เจ้าหน้าที่เริ่มสงสัยว่า การระบาดครั้งใหม่อาจเป็นผลมาจากผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจากจีน
เวียดนามกลับเข้าสู่โหมดการตอบโต้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง เที่ยวบินทั้งหมดทั้งเข้าและออกจากเมืองดานัง ระงับการให้บริการนาน 15 วัน แต่แม้ว่าเวียดนามจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างรวดเร็ว ก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง เมื่อมีนักท่องเที่ยวประมาณ 21,000 คนจากเมืองดานัง เดินทางกลับกรุงฮานอย และอีก 18,000 คน เดินทางกลับนครโฮจิมินห์ ซิตี้
รัฐบาลกรุงฮานอย แถลงว่า จะทำการตรวจหาเชื้อหมู่ประชาชนทั้งหมด 21,000 คน ที่เดินทางกลับจากเมืองดานัง พร้อมกับสั่งปิดบาร์ และห้ามชุมนุมกันเป็นกลุ่มใหม่อีกครั้ง