"กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ " แถลงจุดยืนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยันรัฐบาลไม่ได้หนุนหลัง อัด “เยาวชนปลดแอก” ท้าทาย ต่อต้าน ล้มล้างสถาบัน ชู 3 นิ้ว “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์”
เมื่อวันที่ 30 ก.ค. กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ รวมพลังปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รวมกลุ่มชุมนุมกันที่บริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย โดย นายทศพล มนูญญรัตน์ ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ อ่านแถลงการณ์ “เพื่อประชาธิปไตยด้วยใจจงรักภักดี” ระบุว่า จากกรณีที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก และ สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย หรือ สนท. จัดกิจกรรมทางการเมืองขึ้น ตั้งแต่ 18 ก.ค.2563 ซึ่งต่อมาได้มีการจัดกิจกรรมในลักษณะเช่นเดียวกันนี้ หลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยกิจกรรมดังกล่าวแม้จะยื่นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกและยุบสภา แก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตย แต่ปรากฏหลักฐานและข้อเท็จจริงว่ามีการแสดงออกเพื่อ ต้องการ ท้าทาย ต่อต้าน หรือล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งยังมีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จหรือเฟกนิวส์เพื่อปลุกระดมให้เกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเรียกร้องวัตถุประสงค์ของการ ชุมนุมเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลแต่อย่างใด อีกทั้งเป็นการชุมนุมที่ศูนย์ทุกอย่างที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้นในสังคม แต่กระนั้นทางแกนนำการชุมนุมกลับบ่ายเบี่ยงปฏิเสธโดยยืนกรานไม่รู้ไม่เห็นกับหลักฐานและข้อเท็จจริงดังกล่าว ซึ่งการกระทำที่ท้าทายและต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ดังกล่าวนี้ได้สร้างความสับสนและความกังวลให้กับประชาชนทั่วไปกว้างว่าจะส่งผลต่อการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งประชาชนทั่วประเทศได้ให้ความร่วมมือร่วมใจกันแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก
ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติซึ่งมีความจงรักภักดีและเห็นว่าชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยังเป็นหมุดหมายที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงขอแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น กลุ่มอาชีวะช่วยชาติมิได้ต่อต้านการชุมนุมทางการเมืองโดยเจตนาเพื่อรักษาประชาธิปไตย แต่ต้องตำหนักถึงการกระทำที่ไม่ก้าวล่วงไปในขอบเขตที่อาจนำพาสังคมไทยเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรง ทั้งนี้ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติ จะเคลื่อนไหวโดยจะดำเนินกิจกรรมให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์และเจตนาที่แท้จริงของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือในการต่อต้านล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการอ่านแถลงการณ์ ผู้ชุมนุมได้ชู 3 นิ้ว ที่หมายถึง “ชาติ ศาสน์ กษัตริย์” ก่อนเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนแยกย้ายจากพื้นที่
ขณะที่บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยมีกลุ่มมวลชน ซึ่งส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีเหลือง เดินทางเข้ามาร่วมแสดงจุดยืน กันจนเต็มพื้นที่ บริเวณริมฟุตบาท ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนสตรีวิทยา ถนนราชดำเนินกลาง ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุม ได้นำป้าย ที่มีข้อความแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และข้อความที่ระบุว่าอย่าก้าวล่วง และอย่าแตะต้องสถาบัน พร้อมนำธงชาติ มาโบกสะบัดเป็นการแสดงออก ถึงจุดยืน
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน ชนะสงครามและสน สำราญราษฎร์ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ มาดูแลความสงบเรียบร้อย โดยก่อนการแถลงจุดยืนได้เข้าแจ้งกับแกนนำ ถึงข้อกฎหมายในการชุมนุม ภายใต้พรกฉุกเฉิน โดยเน้นย้ำถึงการเว้นระยะห่าง และการชุมนุมโดยไม่กระทบสิทธิของผู้อื่น นอกจากนี้ยังมีมวลชนจากกลุ่มชาวนาที่เดินทางเข้ามาร่วมสมทบ กับกลุ่มอาชีวะช่วยชาติอีกด้วย
นายทศพร ได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่าแอดมินเพจเคยเป็นแนวร่วม กปปส. ว่า กลุ่มอาชีวะช่วยชาติก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2556 แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแอดมินเพจเป็นตนเองแล้ว ยืนยันว่าแอดมินคนเดิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเพจแล้ว ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านมองว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มมีรัฐบาลอยู่เบื้องหลังนั้นยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเพียงตนและเพื่อนอีก 2 คน ที่ร่วมกันคิดและดำเนินการจัดกิจกรรมขึ้น ส่วนความเคลื่อนไหวหลังจากนี้ ยังไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ วันนี้เป็นเพียงการแถลงจุดยืน และยังไม่อยากยกระดับไปถึงขั้นชุมนุม เนื่องจากยังมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและโรคระบาดที่ทำให้ประเทศไทยเสียหายอย่างมาก การออกมาชุมนุมอาจทำให้ประเทศเสียหายมากกว่าเดิม ทั้งนี้หากกลุ่มเยาวชนปลดแอกหรือผู้อยู่เบื้องหลังยังมีพฤติกรรมต่อต้านหรือล้มมล้างสถาบัน กลุ่มอาชีวะช่วยชาติอาจจะออกมาเคลื่อนไหว แต่ยืนยันว่าจะไม่มีความรุนแรงหรือการเผชิญหน้าเกิดขึ้นและขออย่านำสถานการณ์นี้ไปเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ในอดีตเพราะแตกต่างกัน ส่วนจะมีการเรียกร้องให้ใช้มาตรา 112กับคนที่ถือผ้ายข้อความไม่เหมาะสมหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องขอให้เป็นเรื่องทางกฎหมาย ทางกลุ่มมีหน้าที่อย่างเดียวคือปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
นายทศพร กล่าวด้วยว่า สำหรับข้อเรียกร้อง กลุ่มเยาวชนปลดแอกทั้ง 3 ข้อ ตัวแทนกลุ่มอาชีวะช่วยชาติระบุว่าไม่ได้ต่อต้านหรือสนับสนุน เพราะเข้าใจหลักสิทธิมนุษยชน แต่ขอฝากถึงกระทรวงที่ดูแลด้านการใช้โซเชียลมีเดีย ให้ดำเนินการตรวจสอบบุคคลที่ใช้โซเชียลเผยแพร่ข้อมูลจาบจ้วงสถาบัน พร้อมฝากถึงผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของนักศึกษา ว่าให้ระวังตัวและหยุดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม