หนีตายราวกับหนังโรคจิต "เกย์หนุ่ม" หลอนขึ้นสมอง รีบปรี่ออกมาเตือนภัย ใครชอบนัดมีกิจกรรมผ่านแอพฯ หาคู่ ระวังเจอเรื่องไม่คาดคิด ...
ความงุ่นง่านเป็นเหตุสังเกตได้ ... ยุคนี้คนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเพศไหนๆ มักใช้แอพพลิเคชั่นนัดดีลดูตัวเพื่อสานสัมพันธ์หรือผ่อนคลายความเครียดแก่กันตลอด ยิ่งความโสดมันเหงาโปรดเข้าใจยิ่งทำให้แอพฯ หาคู่ดูตัวนี้เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ล่าสุด มีหนุ่มเพศทางเลือกที่ชื่นชอบการใช้แอพฯ เช่นนี้ นัดทำกิจกรรมทางเพศกับคนแปลกหน้า จนเจอดีเข้าจนได้ โดยชายคนที่หนุ่มเตือนภัยกำลังกล่าวถึง เป็นชายหนุ่มที่เราๆ ท่านๆ เคยเห็นหน้าอยู่ในวงการบันเทิงบ้าง และแม้จะไม่ค่อยโด่งดังสักเท่าไหร่ แต่พฤติกรรมที่เขาปฏิบัติต่อคู่ขา อาจทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะฆาตกรซาดิสม์ก็เป็นได้ หากหนุ่มคนนี้พลั้งมือเกินเลยไป จนอาจมีคนสังเวยชีวิตกับน้ำมือเขาก็เป็นได้
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 โลกโซเชียลต่างในความสนใจประสบการณ์เขย่าขวัญสั่นต่อมระทึกจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญในกรณีนี้ จึงออกมาเตือนภัยผู้ที่ใช้แอพพลิเคชั่นนัดพบเพื่อไปสานสัมพันธ์ลึกซึ้งต่างๆ หรือดีลกันผ่านช่องทางไหนก็ตาม ต้องคิดให้ถี่ถ้วน อย่ามองแค่ความต้องการเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เพราะอาจพบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างหนุ่มต้นเรื่อง ที่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนลุ้นยิ่งกว่าภาพยนตร์แนวฆาตกรรมสยองขวัญเสียอีก
ทั้งนี้ หนุ่มเกย์เหยื่อความรุนแรงได้เล่าว่า ได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่พักแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา เข้าพักตั้งแต่วันจันทร์ (27 กรกฎาคม) กระทั่งเช้าวันอังคารที่ 28 กรกฎาคม ช่วงประมาณตี 5 ตนเตรียมขับรถกลับบ้าน ระหว่างนั้นแอพพลิเคชั่นสีส้มเด้งเตือนขึ้นมาว่า
"สวัสดีครับ อยู่แถวนี้เหรอ มาหาเรามั้ย อยู่ใกล้ ๆ กันนี่เอง ไม่ไกลหรอก"
เมื่อเห็นข้อความเชิญชวนอย่างนั้น ผู้เสียหายจึงตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย โดยไม่มีความคิดเฉลียวใจ เพราะภาพโปรไฟล์ที่คุยกันนั้นมันดึดดูดให้เกิดความกระสันต์อยากเจอตัวจริง ขณะขับรถไปที่หมายพหลโยธิน 53 ก็คุยแชตกันเรื่อยๆ ซึ่งอีกฝ่ายนั้นอ้างว่าอยู่คนเดียว
และเมื่อไปถึงจุดหมาย พบเป็นหอพักที่ต้องใช้คีย์การ์ดเข้า-ออกเท่านั้น ชายคนนั้นลงมาเปิดประตูให้ บรรยากาศโดยรอบเงียบมากๆ ช่วงเกือบ 6 โมง เราทักทายกันปกติ แล้วเขาก็พาเดินขึ้นห้อง บรรยากาศทางเดินวังเวงมาก เมื่อถึงห้องเขา ผู้เล่าช็อกสุดๆ เพราะสิ่งที่เจอคือมีชายอีกคนอยู่ในห้อง ซึ่งผู้เล่าไม่ได้เตรียมใจมาก่อน ในหัวมีแต่คำถาม ฝั่งนั้นจึงเชิญเข้าห้อง ซึ่งก็ต้องทำตัวตามน้ำไปก่อน หนีไม่ได้ จากนั้นทั้ง 2 คนก็นั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกัน ฝ่ายผู้เล่ารู้สึกไม่ปลอดภัยพยายามติดต่อเพื่อน แต่ติดต่อไม่ได้ เพราะเช้ามากเพื่อนยังไม่ตื่น
งานนี้ผู้เสียหายไม่รู้จะทำยังไง เลยขออนุญาตออกไปโทรศัพท์ หนุ่มที่นัดตนมาก็ระเบิดขึ้นมาทันที ตะโกนดังลั่นว่า
"มึงเป็นเหี้xอะไร กูเห็นมึงมองเหยียดตั้งแต่ข้างล่าง ตั้งแต่กูไปรับมึงละ มึงเป็นเหี้xไร มองกูแบบนั้น มึงเป็นเหี้xอะไร สายตามึงแม่ง โคตรเหยียดเลยห่า"
ขณะนั้นผู้เล่าช็อกและกลัวมาก จึงตอบกลับไปว่าไม่ได้เหยียด เราแค่ยังไม่ได้นอน ตนสติหลุดรีบลุกเดินไปที่หน้าประตูห้อง โดนเขาลุกมากระชากหัวแรงมาก ยื้อกันไปมา อีกคนก็พูดแค่พี่ใจเย็นๆ สักพักเปิดประตูได้ก็รีบวิ่งออกมาเลย โดยอีกฝ่ายตะโกนไล่หลังว่า มึงออกไปไม่ได้หรอก มันต้องใช้คีย์การ์ด
ผู้เล่าได้วิ่งไปหลบที่ชั้น 1 ปิดเสียงโทรศัพท์และหายใจเบาที่สุด จากนั้นมีเสียงฝีเท้าเดินตามลงมาแล้วเงียบไป เมื่อมั่นใจว่าเขาไปแล้ว จึงเคาะประตูขอความช่วยเหลือจากห้องแถวนั้น ซึ่งมีคนยอมช่วยมานำคีย์การ์ดมาเปิดประตูให้ ตนรีบวิ่งออกจากหอพักแบบไม่คิดชีวิต แล้วไปที่รถยนต์ จากนั้นมีคนทักมาผ่านแอพพลิเคชันนั้นว่า
"หายไปไหนแล้ว มาส่งของเหรอ"
ผู้เล่าไม่รู้ทางนั้นหมายถึงอะไร เลยบอกไปว่า "มาวัด"
จากนั้นคนๆ นั้นก็ชวนคุยแปลกๆ เขาบอกอยู่พหลโยธิน 53 เหมือนกัน ผู้เสียหายคิดว่าคงเป็นผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องนั้นทักมา จึงรู้สึกหลอนๆ กลัวถูกตามจากพิกัดของแอพพลิเคชั่น เลยกดปุ่มบล็อกทั้งหมด ต่อมาเมื่อเอาชื่อคนที่นัดไปค้นหา ปรากฏว่าเป็นคนที่มียอดติดตามในโซเชียล 4 หมื่นกว่า เป็นพิธีกร นักแสดง ทำงานสายบันเทิง แถมมีคนทักมาแชร์ประสบการณ์ว่าเคยโดนแบบนี้เหมือนกันอีกด้วย คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริงๆ
