3 สลัมในมุมไบติดเชื้อโควิด-19 เกินครึ่ง

2020-07-30 10:00:36

3 สลัมในมุมไบติดเชื้อโควิด-19 เกินครึ่ง

Advertisement


ผลการศึกษาชิ้นใหม่ ซึ่งดำเนินการโดยเขตเทศบาลเมืองมุมไบ, นิติอายอก หน่วยงานคลังสมองของรัฐบาลและสถาบันวิจัยขั้นพื้นฐาน ทาทา และเผยแพร่เมื่อวันอังคาร พบว่า ประชาชนกว่าครึ่งหนึ่งที่อาศัยอยู่ในสลัม หรือแหล่งชุมชนแออัด ใน 3 พื้นที่ของเมืองมุมไบ ศูนย์กลางธุรกิจของอินเดีย อาจติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากผลตรวจแอนติบอดี้ได้ผลเป็นบวก ซึ่งดูเหมือนว่า อัตราการติดเชื้อสูงกว่าผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในแหล่งสลัม

ผลการสำรวจชิ้นนี้ เพิ่มคำถามเกี่ยวกับระดับการตรวจหาเชื้อในอินเดีย ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสูงสุดอันดับ 3 ของโลก ตามหลังสหรัฐและบราซิล โดยเมื่อวานนี้ (วันพุธ) อินเดีย รายงานว่า มีผู้ติดเชื้อเกิน 1.5 ล้านคนแล้ว หลังจากทำสถิติติดเชื้อมากกว่า 500,000 คนเพียง 12 วันที่ผ่านมา ซึ่งอินเดียใช้เวลาเกือบ 6 เดือนมีผู้ติดเชื้อสะสม 1 ล้านคนแรก



มุมไบ มีประชากรมากกว่า 12 ล้านคน ซึ่งอยู่ในรัฐมหาราษฎระ ยืนยันผู้ติดเชื้อมากกว่า 110,000 คน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6,180 คน ส่วนรับมหาราษฎระ ถือเป็นรัฐที่มีการระบาดของไวรัสหนักหน่วงที่สุดในอินเดีย มีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 377,000 คน และเสียชีวิต 14,000 คน

การศึกษาชิ้นนี้ พบว่า 57 เปอร์เซ็นต์ของตัวอย่างที่เก็บมาจากประชาชนที่อยู่ในสลัมทั้ง 3 แห่ง คือเชมปุระ, มาตุงกา และทาฮีซาร์ มีผลตรวจเป็นบวกจากการตรวจแอนติบอดี้ แต่มีเพียง 16 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ของผู้ที่อาศัยอยู่นอกสลัม มีผลตรวจเป็นบวก จากการสุ่มตรวจ 6,900 ตัวอย่างจากผู้เข้าร่วม ซึ่งอาศัยอยู่ในมุมไบในครึ่งแรกของเดือนกรกฎาคม



แหล่งชุมนุมแออัดทั้ง 3 แห่งนี้ มีประชาชนอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 1.5 ล้านคน ตั้งอยู่ทางตะวันตก, ตะวันออกและกลางของมุมไบ นักวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมในการศึกษาครั้งนี้ กล่าวกับบีบีซี ว่า ผลตรวจครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในเมืองที่มีการระบาดหนักที่สุดแห่งหนึ่งของอินเดีย

สำหรับอัตราการเสียชีวิตจากโควิดระบาดในอินเดีย เมื่อเทียบต่อหัวประชากรกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการระบาดหนัก อยู่ที่ 2.47 คนต่อ 100,000 คนเท่านั้น ขณะที่สหรัฐอยู่ที่ 45.24 คน และ 68.95 คนในสหราชอาณาจักร ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์