นักแสวงบุญชาวมุสลิมจำนวนจำกัด เริ่มประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปี พ.ศ. 2563 เมื่อวันพุธ (29 ก.ค.)ที่เมืองศักดิ์สิทธิ์ เมกกะ ทางภาคตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย ท่ามกลางมาตรการเข้มงวด เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นสาเหตุให้ทางการซาอุฯ ตัดสินใจ ไม่อนุญาตให้นักแสวงบุญจากทั่วโลก เดินทางไปร่วมประกอบพิธีในปีนี้
พิธีฮัจญ์ปีนี้จะมีขึ้นเป็นเวลา 5 วัน โดยทางการซาอุฯ จำกัดจำนวนประชาชนเข้าร่วมพิธี เพียงแค่ประมาณ 10,000 คน เป็นประชาชนที่อยู่ในซาอุดีอาระเบียทั้งหมด โดย 70 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวต่างชาติ ส่วนที่เหลือเป็นชาวซาอุฯ
ปีที่แล้วมีนักแสวงบุญชาวมุสลิมประมาณ 2.5 ล้านคน จากประเทศต่างๆ ทั่วโลก เดินทางไปร่วมพิธี
นายโมฮัมเหม็ด ซาเลห์ บินเต็น รัฐมนตรีกระทรวงกิจกรรมแสวงบุญซาอุดีอาระเบีย เผยว่า ผู้ที่ผ่านการคัดกรองให้เข้าร่วมพิธีฮัจญ์ประจำปีนี้ทั้งหมด จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รวมถึงการตรวจสุขภาพและกักตัวที่บ้าน และเมื่อเดินทางถึงเมืองเมกกะ ทุกคนจะต้องเข้ากักตัวที่โรงแรมที่พัก ที่จองไว้ล่วงหน้าอีก 4 วัน ก่อนจะเข้าร่วมพิธี ซึ่งเริ่มด้วยการเดินวนรอบแท่งหินดำกะบาห์ ในลานกว้างกลางมัสยิดอัลฮะรอม
ทางด้านสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในซาอุดีอาระเบีย ถึงวันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ค. จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อสะสมอยุ่ที่ 272,590 คน สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคตะวันออกกลาง รองจากอิหร่าน โดยซาอุฯ ตรวจพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 1,759 คน ในระยะ 24 ชั่วโมง และมีผู้เสียชีวิตอีก 27 คนเป็น 2,816 คน
ซาอุดีอาระเบียเพิ่งยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากประกาศใช้ในเดือน มี.ค. ซึ่งมาตรการเข้มงวดรวมถึง ประชาชนในเมืองต่างๆ เกือบทั่วประเทศ ถูกห้ามออกนอกบ้านตลอด 24 ชั่วโมง.