"สำนักศิลปากร"เร่งฟื้นฟู"ภาพวาดประตูวัด"อายุนับร้อยปี

2020-07-29 13:55:34

"สำนักศิลปากร"เร่งฟื้นฟู"ภาพวาดประตูวัด"อายุนับร้อยปี

Advertisement

สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เร่งฟื้นฟูภาพวาด "ประตูวัดหมื่นล้าน" อายุ 103 ปี หลังช่างสีทาทับภาพวาดโบราณ

เมื่อวันที่ 29 ก.ค. นายไกรสิน อุ่นใจจินต์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ พร้อมด้วย นายเทิดศักดิ์ เย็นจุระ ผู้อำนายการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ นำผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ฯ และกลุ่มอนุรักษ์จิตกรรมฝาผนังฯ กรมศิลปากร เดินทางเข้าพบ พระอธิการสงกรานต์ วิรชยเมธี เจ้าอาวาสวัดหมื่นล้าน ถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบภาพวาดประตูวิหารวัดหมื่นล้าน ที่ทำการบูรณะโดยช่างทาสีทับลายรดน้ำเดิมซึ่งมีอายุกว่า 103 ปี และจารึกอักษรล้านนาที่อยู่บนประตูดั้งเดิมซึ่งระบุว่ามีการสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2460 โดยก่อนที่จะเริ่มสำรวจได้ใช้นำน้ำยามาตรวจสอบสีที่ถูกทาทับ ก่อนที่จะทำการฟื้นฟูให้ภาพวาดกลับคืนมา ซึ่งผลการทดสอบเบื้องต้นจากการใช้น้ำยาลอกคราบสีออก ทำให้เริ่มปรากฎภาพดั้งเดิมออกมาในจุดที่ทดสอบ

ผู้อำนายการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการสอบถามทางวัดได้ข้อมูล ว่า วัดแห่งนี้ทรุดโทรมตามกาลเวลา และต้องเร่งบูรณะใหม่เพราะมีคณะศรัทธาเห็นวัดทรุดโทรมจึงบริจาคเงินมา ซึ่งวัดเปรียบเหมือนบ้าน หากมีการพุพังก็ต้องมีการซ่อมแซมให้มั่นคงแข็งแรง และถือเป็นการดูแล แต่การบูรณะอาจผิดวิธีไปบ้าง อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ทราบข่าวและมีสื่อหลายสำนักออกข่าว จึงได้ประสานทางวัดขอให้หยุดการซ่อมแซมไว้ก่อน กระทั่งได้เดินทางมาในวันนี้ และจากการสอบถาม เจ้าอาวาสวัดพบว่า มีการทารองพื้นสีขาวแล้วลงชาดสีแดงทับเป็นชั้นที่สอง ส่วนชั้นที่สามเป็นการลงรักสีดำ ซึ่งเป็นชั้นสุดท้ายก่อนที่จะมีการเขียนลวดลายลงไป




นายไกรสิน ยังกล่าวถึงประเด็นที่มีการระบุว่า ประตูวัดดังกล่าวอาจไม่ใช่ประตูดั้งเดิมจนเกิดกระแสว่าเอาของใหม่มาย้อมหรือไม่นั้น ทางสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ยืนยันว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นประตูไม้ดั้งเดิมอย่างแน่นอน ส่วนการฟื้นฟูให้กลับมานั้น วันนี้ได้เตรียมเคมีเพื่อนำมาทดสอบ 15 ชนิด เนื่องจากทางวัดไม่ทราบว่าสีที่ช่างทาลงไปนั้นเป็นสีชนิดไหน ดังนั้นจึงต้องนำน้ำยามาทดสอบว่าสีแต่ละชั้นเป็นสีอะไรบ้าง แล้วมีความบาง หรือมีความหนาแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลการทดสอบพบว่า สีชั้นนอกสุดที่ลงรักสีดำ หรือเป็นสีน้ำมันสีดำ สามารถลอกออกมาได้และไม่กระทบกับสีด้านใน เพราะชั้นที่สองมีชาดสีแดงรองไว้แต่ไม่หนามาก ส่วนชั้นล่างสุดเป็นสีขาว และที่น่าเป็นห่วง คือ สีขาวดังกล่าวลักษณะคล้ายกับสีที่นำมาใช้กับการทำสีรถ เป็นอีพ็อกซี่สีขาว แต่โชคดีที่สีรองพื้นยังไม่เซ็ตตัวหรือยังไม่แข็งตัวเต็มที่ เนื่องจากมีชาดสีแดงและลงรักสีดำชั้นนอกสุด เป็นเหมือนฟิล์มเคลือบไว้

ผู้อำนายการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน กล่าวอีกว่า แต่ผลการทดสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่พบว่าการที่จะฟื้นฟูต้องใช้เวลาที่มากพอสมควร แล้วต้องค่อยๆ ทำทีละจุด ไม่สามารถที่จะเปิดรักสีดำ หรือชาดสีแดงที่ถูกทาทับไว้ทั้งหมดออกได้ในทีเดียว เพราะจะเป็นตัวเร่งให้อีพ็อกซี่สีขาวที่เป็นสีรองพื้นแข็งตัวเร็วขึ้น หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูภาพดั้งเดิมกลับมาได้ จึงต้องใช้เวลาฟื้นฟูทีละจุด แม้จะช้าแต่ก็ต้องทำด้วยความใจเย็น ค่อยๆ ลอกสีออกทีละชั้นไม่ให้กระทบกับภาพดั้งเดิม แล้วต้องทำทั้งบาน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 2 อาทิตย์ ซึ่งจะเร่งระดมเจ้าหน้าที่พร้อมน้ำยาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการให้เร็วที่สุดเพราะต้องแข่งกับเวลาไม่ให้สีเซ็ตตัว นอกจากนี้ก็ต้องห่วงสุขภาพของเจ้าหน้าที่ที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำยาเคมีด้วย ขณะนี้ก็มีความมั่นใจอย่างมากที่จะฟื้นฟูภาพให้กลับคืนมา แต่จะ 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่ยังไม่สามารถบอกได้



นายไกรสิน กล่าวทิ้งท้าย ว่า ในอนาคตหากวัดแห่งนี้ต้องการที่จะขึ้นเป็นโบราณสถานก็สามารถทำได้ แต่ต้องตรวจสอบรายละเอียดตามขั้นตอนเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับที่กำหนดไว้ ก่อนหน้านี้ที่สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ไม่ใช่เพราะไม่อยากให้ขึ้น แต่การขึ้นโบราณสถานต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของก่อน หลังจากนี้ทางสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ เตรียมขยายองค์ความรู้ให้กับพระสังฆาธิการ และผู้ดูแลวัดให้มากที่ขึ้น แม้ว่าจะทำมาตั้งแต่ปี 2536 แล้ว แต่พบว่าโบราณสถานอยู่เป็นจำนวนมาก และความรู้อาจไม่ทั่วถึงจึงต้องเร่งเสริมความรู้เพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก ดังนั้นจึงอยากจะฝากไปถึงวัดต่างๆ ที่มีโบราณสถานแล้วยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน รวมถึงวัดที่ขึ้นทะเบียนแล้ว หากจะมีการซ่อมแซม หรือต่อเติมส่วนใดที่เป็นประวัติศาสตร์ และเป็นโบราณสถาน ขอให้ปรึกษากรมศิลปากรเพื่อให้เข้าไปตรวจสอบก่อน ซึ่งจะช่วยแนะแนวทางการบูรณะซ่อมแซมที่ถูกต้อง