โลธาร์ เวเลอร์ ผู้อำนวยการสถาบันโรแบร์ท ค็อค (Robert Koch Institute) หรือ RKI ซึ่งเป็นหน่วยงานการวิจัยป้องกันและควบคุมโรคของประเทศเยอรมนี แถลงข่าวครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์เมื่อวันอังคารว่า “ความประมาท” อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังไม่มั่นใจว่า ไวรัสกลับมาระบาดระลอก 2 ในเยอรมนีหรือไม่ เขา “กังวัลอย่างมาก” กับการเพิ่มขึ้นอีกรอบของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดในประเทศ ชาวเยอรมัน “ประมาท” ไปแล้ว และเรียกร้องให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยและเคารพมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม social distancing และมาตรฐานสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ พุ่ง 3,611 คน
RKI เชื่อมโยงการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อ เนื่องจากมีการจัดงานปาร์ตี้ พบปะสังสรรค์ทางสังคม และมีการติดเชื้อในสถานที่ทำงานด้วย
สำหรับเยอรมนี มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วประเทศ 206,242 คน และเสียชีวิต 9,122 คน จำนวนเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขผู้เสียชีวิต ถือว่าต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ ในยุโรปมาก และเยอรมนี ก็ได้รับเสียงชื่นชมทั้งภายในและนานาชาติ ในการรับมือการะบาดของไวรัสได้อย่างรวดเร็วและโครงการตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึง แต่ในช่วงหลายวันมานี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงต่อเนื่อง และเมื่อวันอังคารทำสถิติสูงสุด 633 คน เกือบ 2 เท่าจาก 340 คนเมื่อวันจันทร์ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีรายงานผู้ติดเชื้อรายวัน รายใหม่เฉลี่ย 557 คน เมื่อเทียบกับประมาณ 350 คนในช่วงต้นเดือนมิถุนายน
คำเตือนของผู้อำนวยการ RKI มีขึ้นขณะที่ หลายประเทศในยุโรปกลับมาเชผิญหน้ากับการระบาดซ้ำอีกและปัญหาผู้เดินทางทั่วทวีปในช่วงวันหยุดฤดูร้อน ซึ่งมีหลายประเทศที่ต้องกักตัว โดยเมื่อวันอังคาร รัฐบาลเยอรมนี เตือนเรื่องการเดินทางไป 3 แคว้นในสเปน คืออารากอน, คาตาโลเนียและแคว้นนาวาร์ ซึ่งมีการระบาดของไวรัสโควิดรอบใหม่และผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคำเตือนมีขึ้นหลังสหราชอาณาจักรประกาศมาตรการกักตัว 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากสเปน อันเป็นการเคลื่อนไหวหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ผู้นำสเปน เรียกว่า “ไร้ความยุติธรรม”
ระหว่างแถลงข่าว นายเวเลอร์ เรียกร้องเป็นครั้งแรกให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเวลาออกนอกบ้าน หากไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางกายภาพได้อย่างน้อย 1.5 เมตร ก่อนหน้านี้ มีการเรียกร้องให้สวมหน้ากากอนามัยภายในสถานที่สาธารณะด้วย เยอรมนีต้องหยุดยั้งไวรัส ซึ่งกลับมาระบาด “อย่างรวดเร็วและไร้การควบคุม” อีกครั้ง ด้วยการปฏิบัติตามมาตรการด้านสุขอนามัยและการเว้นระยะห่าง ซึ่งนายเวเลอร์ มีความคิดเห็นในแง่ดีว่า หากทุกคนปฏิบัติตามกฎด้านสุขอนามัยแล้ว ก็สามารถป้องกันการระบาดของไวรัสได้ มันขึ้นอยู่กับความร่วมมือของคนในชาติ เพราะทุกคนยังไม่รู้หรอกว่า นี่เป็นการระบาดรอบ 2 หรือไม่ แต่แน่นอนว่า มันอาจเป็นการระบาดรอบ 2
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เยอรมนีประกาศโครงการตรวจหาเชื้อไวรัสฟรี สำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งปัจจุบันนี้ ประกอบด้วยบราซิล, ตุรกี และสหรัฐ และเจ้าหน้าที่กล่าวว่า จะต้องอัพเดตสถานการณ์รายวัน
ในณะที่ เบลเยียมก็ลดขนาดการรวมตัวกันทางสังคมเหลือ 5 คนเมื่อวันจันทร์ หลังผู้ติดเชื้อเพิ่มสูง เจ้าหน้าที่ในเมืองแอนต์เวิร์ป เมืองเอกของมณฑลแอนต์เวิร์ป ทางเหนือสุดของเบลเยียม ประกาศใช้เคอร์ฟิวในเวลากลางคืน ยกเว้นแรงงานที่จำเป็น และบังคับให้ทุกคนที่อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ด้านเจ้าหน้าที่สเปน ยังคงหวังว่า อังกฤษจะเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจ หรือทบทวนคำสั่งกักตัวเพื่อรักษาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบ ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายใหม่ยังพุ่งสูงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ แม้ว่าการระบาดทั่วประเทศยังอยู่ภายใต้การควบคุม โดยในแคว้นอื่น ๆ ของประเทศมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่กี่คนเท่านั้น
ด้านนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำสหราชอาณาจักร เตือนเมื่อวันอังคารว่า มีสัญญาณหลายอย่างบ่งชี้ให้เห็น “การระบาดรอบ 2 ของไวรัสโควิด-19” ในยุโรป ขณะที่เขาออกมาปกป้องการตัดสินใจของรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่บังคับ “กักตัว” 14 วันสำหรับผู้ที่เดินทางกลับมาจากสเปน จนทำให้รัฐบาลสเปนไม่พอใจจ โดยจอห์นสัน บอกว่า รัฐบาลต้องดำเนินการ “อย่างรวดเร็ว” และยังพูดเป็นนัยด้วยว่า จะใช้มาตรการเพิ่มเติมต่อประเทศอื่น ๆ อีกด้วยหากจำเป็น