รัฐบาลเวียดนามออกคำสั่ง ห้ามนำเข้าสัตว์ป่าและผลิตภัณฑ์สัตว์ป่า รวมทั้งห้ามตลาดซื้อขายสัตว์ป่า รวมถึงการซื้อขายทางออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งใหม่
ก่อนหน้านี้ เวียดนามถูกกล่าวหา ทำเมินเฉยต่อการซื้อขายผลิตภัณฑ์สัตว์ป่า เช่น เกล็ดลิ่น และนอแรด ที่มักถูกใช้เป็นส่วนผสมยาแผนโบราณ
นักวิทยาศาสตร์กล่าวเตือนมานานว่า การค้าขายสัตว์ป่าอาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ และการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกในขณะนี้ เชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดจากการค้าสัตว์ป่าเช่นกัน โดยเชื้อไวรัสเกิดในค้างคาว แล้วแพร่สู่มนุษย์ โดยผ่านสัตว์อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ แต่อาจจะรวมถึงชะมด และตัวนิ่ม หรือตัวลิ่น

ประกาศทางเว็บไซต์ ของรัฐบาลสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เมื่อวันพฤหัสบดี (23 ก.ค.) ระบุว่า “นายกรัฐมนตรีเวียดนามลงนามนำคำสั่ง ระงับการนำเข้าสัตว์ป่า ไม่ว่าจะตายแล้วหรือมีชีวิต รวมทั้งไข่ ชิ้นส่วนอวัยวะและผลิตภัณฑ์แปรรูป พลเมืองทุกคน โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ ห้ามเกี่ยวข้องกับการลักลอบล่า ซื้อขาย ขนส่ง สัตว์ป่าผิดกฎหมายทั้งหมด”
คำสั่งยังรวมถึงให้ปิดตลาด หรือสถานที่ซื้อขายสัตว์ป่าผิดกฎหมายทั้งหมด
การตัดสินใจของรัฐบาลเวียดนาม ได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดานักอนุรักษ์ นายสตีเวน กอลสเตอร์ ประธานกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการค้าสัตว์ป่า ฟรีแลนด์ (Freeland) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่เวียดนามยอมรับว่า ไวรัสโควิด-19 และโรคระบาดอื่นๆ เกี่ยวโยงกับการค้าสัตว์ป่า การค้าประเภทนี้สมควรถูกห้าม เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคงด้านสาธารณสุข ทั้งระหว่างประเทศและในประเทศ
แต่บางกลุ่มอนุรักษ์กล่าวว่า คำสั่งของทางการเวียดนามไม่ครอบคลุมเพียงพอ นายเหวียน วาน ไถ่ ผู้อำนวยการกลุ่ม Save Vietnam’s Wildlife กล่าวว่า การห้ามบริโภคสัตว์ป่า ในคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงการใช้สัตว์ป่าเป็นยา หรือสัตว์ป่าถูกเก็บเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน.