"จอย ชลธิชา" แอบหวั่นอาถรรพ์เลข 7 กับแฟนหนุ่มนอกวงการ

2020-07-24 18:00:14

"จอย ชลธิชา" แอบหวั่นอาถรรพ์เลข 7 กับแฟนหนุ่มนอกวงการ

Advertisement

กลายเป็นโลโก้ของนางร้ายแอ๊บแบ๊วไปซะแล้ว สำหรับนักแสดงสาวตากลมร่างเล็ก "จอย-ชลธิชา นวมสุคนธ์" ที่มาเยือนรายการต้มยำอมรินทร์ เจ้าตัวก็โชว์สกิลการแสดงแอ๊บร้าย ถึงขนาดพิธีกรของเรายังต้องยกนิ้วให้สมกับฉายาที่ได้รับ งานนี้สาวจอยยังได้อัพเดทถึงความรักที่ไม่ค่อยได้พูดที่ไหนแต่เปิดไม่เคยปิดกับหนุ่มนอกวงการที่รักกันมายาวนานเข้าปีที่ 7 แอบมีหวั่นๆอาถรรพ์เลขนี้เหมือนกัน ด้วยเหตุที่ว่าเพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว จากนั้น สาวจอยยังได้พาย้อนอดีตไป 20 ปีที่แล้ว พูดถึงบทนางเอกเรื่องแรกที่พาตัวเองดังเปรี้ยง เพราะได้เล่นประกบคู่พระเอกหนุ่มอนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม



ก่อนมาเป็นนางร้าย จอยเป็นนางเอกมาก่อน อนันดากับฟ้าใส กี่ปีแล้ว ?

น่าจะ 20 ปีมาแล้วค่ะ ตอนนั้นอายุ 13-14 ปีค่ะ คือ เป็นหนังเรื่องแรก แต่จริงๆแล้วเข้าวงการมาจากการถ่ายโฆษณา มีการประกวด แล้วก็มาได้เล่นหนัง



ได้มาเป็นนางเอกดังเลยในตอนนั้น แล้วที่สำคัญคู่กับอนันดา ?

ใช่ค่ะ ดังคู่กันมาเลย ก็จะเป็นภาพยนตร์ที่หวือหวาเลยในยุคนั้น เพราะเสื้อผ้าที่เราใส่เป็นชุดว่ายน้ำ แล้วก็มีฉากจูบกัน ซึ่งสมัยนั้นคือไม่ได้เลย แล้วตอนนั้นคือเรายังเด็กด้วย โดยกระแสทุกอย่างเลย

ทำไมถึงกล้ารับเล่น ?



เราก็ไม่ได้คิดอะไรงานก็เป็นงาน ตอนนั้นเราก็ใสๆ ต่างคนก็ต่างเขิน เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิง ที่มันได้มาเล่นบทอิโรติกด้วยกันพอเจอกันแบบบอกไม่ถูก

ตอนนั้นมีแอบปิ๊ง อนันดา ไหม ?

มี ก็เป็นจูบแรกของเราเนอะ คือ อยากจะบอกคนทั้งโลกได้แบบไม่อายเลยนะคะ ว่าจูบแรกในชีวิตของฉัน คือ อนันดา ก็เขินๆก็หล่อดีเนอะ แต่เราไม่ได้มีทางความคิดไปในทางชู้สาวเพราะตอนนั้นเรายังเด็กมาก





หนึ่งคำถามที่คาใจคนทั้งประเทศมา 20 ปี ตอนนั้นจอย กับ อนันดา เป็นแฟนกันไหม ? 

ไม่ได้เป็นค่ะ คุยกันยังไม่รู้เรื่องเลย เพราะเขาไม่ได้คุยภาษาไทยกับเรา แล้วตอนนั้นภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้ดีมาก คือตอนนั้นไม่ได้สื่อสารเป็นภาษาไทยเลย นอกจากบทภาพยนตร์ค่ะ คือเขาก็คาราโอเกะไปเราก็ท่องในของเรา แต่ก่อนหน้านั้นเราก็มีไปเวิร์คช้อป มีการไปเรียนกับหม่อมน้อยกันก่อน พอ 5 4 3 2 ก็เล่นพอคัทก็แยกย้าย เพราะไม่รู้เหมือนกับว่าจะคุยอะไรกัน เพราะเขาก็เด็กด้วยแล้วเราก็เด็ก อยากคุยก็ไม่รู้จะพูดยังไง อยากเราฟังออกก็ไม่รู้จะตอบยังไง ก็เป็นความเกร็งๆทั้งคู่

เมื่อเวลาผ่านไปเคยมาเจอกันบ้างไหม ?

เคยค่ะ เขาเคยมารายการที่วิทยุที่จอยจัดค่ะ เขามาโปรโมทหนัง ก็ตกใจที่ได้มาเจอกัน เพราะหลังจากที่เราเล่นหนังด้วยกัน 10 ปีเราไม่เคยเจอกันเลย

เจอกันได้คุยอะไรบ้างในตอนนั้น ได้ถามกันไหม ตอนที่เราเล่นหนังเราไม่ได้คุยกันเลย ??



ใช่ๆ ก็ได้คุยกันค่ะ ว่าตอนนั้นเราไม่ได้คุยอะไรกันเลยเนอะ

พีคที่สุดเลยไหมตอนนั้น ?

พีคที่สุดเลย

แต่ที่พีคกว่า คือ บทของน้องนกสองหัว คือพีคกว่า ?

ตั้งแต่เล่นหนังใช่ไหมคะ คนจะเรียกเราว่าฟ้าใสๆ แล้ว รัชนก ก็ทำให้เราพลิกบทมากมายๆในชีวิต เวลาไปไหน คนก็จะเรียกเราว่า รัชนก แบบนกสองหัวแทน





จริงๆถือว่าเราพลิกบทบาทเลยไหม เราเคยเล่นร้ายมาไหม ?

ไม่เคยเลยค่ะ เพราะทุกคนจะรู้สึกว่าเราเด็ก หน้าเด็ก ให้บทแต่เป็นคนดีแล้วกัน พอตอนนั้นเราได้รับการติดต่อมา แต่เราก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเล่นร้ายได้ไหม เพราะเราไม่เคยเล่นร้ายมาก่อน เพราะเวลาที่เราเห็นบทร้ายๆก็จะวี๊ดว้าย 

แต่พอรับบทบาทแล้วกลายเป็นบทในตำนานเลย ทำให้เป็นคาแรคเตอร์นางร้ายติดตัวเรามาเลย ?

ติดเลยค่ะ ตอนนี้ติดไปเลย

การที่ละครดังมาก แล้วเราก็เลยรู้สึกว่าขนาดที่เรานั่งด้วยกันอยู่ตอนนี้จอยจริงใจกับเราไหม ?

(ร้องกรี๊ด) เป็นการทำงานค่ะ ทุกอย่างต้องขอบคุณทุกคนที่เชื่อในสิ่งที่เราแสดง เป็นตัวละครที่เราเป็นตัวนั้นจริงๆ

ร้ายจนชินแล้วจะกลับเล่นเป็นนางเอกได้ไหม ?

ได้นะคะ แต่จะมีคนจ้างหรือเปล่า

หลังจากที่เรารับร้ายแล้ว บทบาทที่เข้ามาเป็นร้ายไหม ?

ร้ายเกือบทั้งหมด เราก็สนุกดีนะคะ เหมือนเราได้ทำการบ้าน กับบทร้าย เราได้เล่นกับบทนี้ให้มันแตกต่างกันยังไง ร้ายแบบไหน เชื่อว่าคนก็ติดภาพร้ายของเราอยู่แล้วแต่เราก็ไม่อยากให้ร้านเหมือนกันทุกเรื่อง



อัพเดทงานแล้วมาอัพเดทเรื่องหัวใจกันบ้างดีกว่า เพราะไม่ค่อยได้เปิดเท่าไหร่ มีคนรู้ใจที่คบกันมานานแล้ว ?

จริงๆไม่ได้เป็นคนที่ปิดนะคะ คบใครก็เปิดตลอดตั้งแต่ที่เราเข้าวงการมาคบใครก็เปิดเผยตลอดเลยเพราะเรารู้สึกว่าปิดไปก็เท่านั้นสุดท้ายคนก็รู้อยู่ดี ก็คนนี้คบกันมา 7 ปีแล้วค่ะ เพื่อนแนะนำให้รู้จักกัน

กลัวอาถรรพ์ 7 ปี แล้วเลิกกันไหม ?

จริงๆก่อนหน้านี้ แฟนคนก่อนๆก็เลิกกันตอน 7 ปี มาแล้วค่ะ ทั้งสองคน เราเป็นคนอดทน คบใครสักคนก็จะคบนาน ก็แอบกลัวอาถรรพ์เหมือนกันนะคะ แต่เราไม่รู้ว่ามันมีจริง หรือ ไม่มีจริง แต่คนเราพอคบกัน 7 ปี เราจะเห็นทั้งมุมดีและมุมไม่ดีของกันและกัน มันก็จะเป็นช่วงที่จะหยุดหรือจะไปต่อมากกว่า คือ แบบไม่ได้ทะเลาะกันแล้ว หรือ ไม่ได้ดีไปกว่านี้แล้ว

ถ้าถามตัวเรา เราอยากไปต่อทางไหนกับความรักครั้งนี้ ?

คือเราก็มองนะ เราคุยกับเขาจริงจังเลยตั้งแรกที่คบกันแรกๆว่า เราไม่ได้คบกันเพื่อที่จะเลิกกันนะ เรามองอนาคตไปด้วยกันใช่ไหม เราถามพี่เขาเลย ว่าพี่มองอนาคตไปร่วมกับจอยหรือเปล่า คือถ้าไม่ได้มองอนาคตด้วยกันเราเป็นเพื่อนกันดีกว่ามันเสียเวลา

แล้วเขาตอบยังไง ?

เขาก็ตอบโอเคมองอนาคตไปด้วยกัน เราก็เลยรู้สึกแบบมันก็มีทิศทางที่จะไปในทิศทางเดียวกัน มันก็เป็นไปได้ที่อนาคตใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

7 ปี แล้วทำไมไม่บอกว่าเมื่อไหร่จะแต่ง ?

(หัวเราะ) บอกทุกวัน ไม่ๆก็มีการคุยกันแต่หลายๆอย่างยังไม่พร้อมสำหรับเราทั้งคู่ด้วย เราแบบอยากมีทุกอย่างพร้อมเวลาเรามีลูกเราจะได้ไม่ต้องมานั่งเครียดอีก แต่เรื่องของอายุด้วยอะไรด้วย

แต่ส่วนหนึ่งที่ทำให้ความรักประสบความสําเร็จในทุกวันนี้ เพราะจอยเป็นคนที่อดทนมาก ?

อดทนมากค่ะ เป็นคนไม่คิดอะไร ถ้าไม่ใช่เรื่องเจ้าชู้หรือว่าอะไรนะคะ



มีความอดทนขนาดไหน กับเรื่องอะไรบ้าง ?

คือเราเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว เป็นคนไม่คิดเล็กคิดน้อย คือจนเพื่อน เขาบอกว่าเราเป็นคนที่อดทนมากเท่าที่รู้จัก กับแฟนเก่าของเพื่อนเขามา
เรารู้สึกว่าถ้าเราจะคบกับคนนี้ เรารักคนนี้มากพอ มันจะไม่ใช่เปลี่ยนเขาเปลี่ยนเรา คือเขาไม่เปลี่ยนเรา และเราไม่เปลี่ยนเขา และรับในข้อเสียของเขาได้มันก็น่าจะโอเคหรือเปล่า มันไม่ได้เป็นข้อเสียที่สร้างปัญหาให้กับเราเรารู้สึกแบบนั้น

ข้อเสียของเขาที่ว่าเราจะรับได้ตลอดไป หรือ เวลานี้เท่านั้น ?

รับมาตลอด คือ มันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ทำให้ทุกอย่างพังทลายลงมา มันเป็นแค่นิสัยเล็กๆน้อยๆทำให้เกิดความรำคาญ แต่เราไม่ได้รำคาญไง

แล้ว 7 ปี ที่ผ่านมาเราเคยไปงี่เง่ากับเขาไหม ?

ก็มีนะคะ เพราะเราเป็นผู้หญิงเรารู้สึก อันโน้น อันนี้ไม่ได้มีความงอแงคิดแทน ทำไมเธอต้องรู้สึกสิ เราโกรธงอนๆผู้ชายเขาไม่รู้หรอก เขาก็ถามว่างอนเรื่องอะไร แต่ตั้งแต่นั้นเราก็เปลี่ยนเพราะเรารู้สึกว่า ไม่พอใจอะไร คือ พูดเลยพูดตรงๆเลย บอกเลยว่าทำเรื่องนี้เราไม่ชอบนะ ถ้าเป็นไปได้ อย่าให้เกิดขึ้นอีก


ทะเลาะกันรุนแรงที่สุดเรื่อง ?

เรื่องแบบ คือแฟนหนูนอนเก่งมากสามารถหลับได้เป็นวันๆบางทีแบบ เรานึกว่าเขาเป็นอะไร คือ เรารู้สึกว่าเขาน่าจะบอกเรานิด ยังนอนอยู่หรืออะไร คือเราเป็นคนที่ชอบเป็นห่วง แบบไม่ได้เจอกันก็ควรบอกเราว่าพี่อยู่บ้านนะ ตอนจีบกันใหม่ๆคือตลกมาก เพราะตอนแรกๆคือต้องแชทหากันใช่ไหม เขาก็แชทหาเราว่าทำอะไรอยู่ เราก็บอกถ่ายละครค่ะ แล้วหายไปเลย เราไม่รู้ว่าเขาหลับ

แปลว่ากับคนนี้ เราก็มองไปข้างหน้าใส่ชุดขาว พร้อมเตรียมแต่งใช่ไหม ?

ก็มองๆก็เห็นค่ะ บางทีก็คุยกันเล่นๆ เราได้แต่งงานกันเราจะจัดงานแบบไหน ก็ได้มีการพูดคุยกันเล่นๆ แต่ยังไม่มีการสู่ขออย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เรากลัวคือเราการมีลูก