มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ "อสส.-ผบ.ตร."เคลียร์คดี "บอส"

2020-07-24 15:15:11

มูลนิธิเมาไม่ขับจี้ "อสส.-ผบ.ตร."เคลียร์คดี "บอส"

Advertisement

มูลนิธิเมาไม่ขับทำหนังสือจี้ อสส.ชี้แจงสั่งไม่ฟ้อง "บอส" กังขา  ผบ.ตร.ไม่แย้งคำสั่งอัยการ

เมื่อวันที่ 24 ก.ค. นายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด (อสส.) ระบุว่า ขอให้ชี้แจงการสั่งไม่ฟ้องคดีผู้ต้องหานายวรยุทธ อยู่วิทยา ในทุกข้อกล่าวหา มูลนิธิเมาไม่ขับ ในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนการรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ มาตั้งแต่ปี 2539 มีความสงสัยต่อกระบวนการยุติธรรมต้นทางในการฟ้องร้อง นำตัวผู้กระทำความผิด ขึ้นสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีสะเทือนขวัญที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ผู้เสียชีวิตเป็นนายตำรวจ ประกอบกับผู้ต้องหา คือนายวรยุทธ  ได้หลบหนีไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตนเอง ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มูลนิธิเมาไม่ขับ จึงขอใช้สิทธิในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนการทำงานเพื่อหยุดความตายบนท้องถนน แทนพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ขอให้ท่านอัยการสูงสุดได้โปรดชี้แจงเหตุผลในการพิจารณามีคำสั่งไม่ฟ้องคดีต่อนายวรยุทธ อยู่วิทยา เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อประชาชนทั้งประเทศ อีกทั้งยังเป็นการดำรงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นของประชาชนต่อสถาบันอัยการ ในฐานะทนายของแผ่นดิน

นอกจากนี้นายสุรสิทธิ์ ยังได้ทำหนังสือถึง ผบ.ตร.  เรื่อง​ ขอให้ชี้แจงเหตุผลการไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการ กรณีมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา  ระบุว่า ​​ ​​มูลนิธิเมาไม่ขับ ในฐานะองค์กรที่ทำงานรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ มาตั้งแต่ปี 2539 มีความสงสัยต่อกระบวนการตัดสินใจของท่าน ในฐานะ ผบ.ตร.  เหตุใดจึงไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการ ในการพิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา  ​​เนื่องจากคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชน และผู้เสียชีวิตเป็นนายตำรวจ ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบญชาของท่าน ประการสำคัญพฤติกรรมของนายวรยุทธ  มีเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ เนื่องจากหลบหนี ไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ตนเองในชั้นศาล  ​​ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มูลนิธิเมาไม่ขับ จึงขอใช้สิทธิในฐานะองค์กรที่ขับเคลื่อนการทำงานเพื่อหยุดความตายบนท้องถนน แทนพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ขอให้ ผบ.ตร.ได้โปรดชี้แจงเหตุผลในการไม่แย้งคำสั่งพนักงานอัยการในคดีนายวรยุทธ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศที่ติดตามคดีนี้อยู่ อีกทั้งยังเป็นการดำรงไว้ ซึ่งศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ในฐานะตำรวจของประชาชน