"วิโรจน์" ลั่น "ก้าวไกล"ไม่ร่วมสังฆกรรม กมธ.วิสามัญถกปัญหา นศ. จี้นายกฯต้องยุติเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ขณะที่ "ปดิพัทธ์" เผย กมธ.พัฒนาการเมืองพร้อมเปิดเวทีรับฟัง
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล แถลงกรณีพรรคก้าวไกลไม่เสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นทางการเมืองนักเรียน นิสิต นักศึกษา ในสัดส่วนของพรรคก้าวไกล จากกรณีชุมนุมเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากการบริหารประเทศ เเละให้รับผิดชอบต่อการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐต่อนักศึกษาว่า จากการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรมา 2 วัน เสียงสะท้อนของ ส.ส.รุ่นพี่ รุ่นน้อง ของทั้งพรรคร่วมฝ่ายค้าน เเละพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ได้สะท้อนปัญหาของนักศึกษา โดยช่วงชีวิตของพวกเขานักศึกษาเหล่านี้ผ่านการรัฐประหารมาถึง 2 ครั้ง ซึ่งในตอนเด็กพวกเขาตั้งใจเรียน เเละเดินตามความฝันของเขา จนมาเจอผลกระทบจากการรัฐประหารเมื่อปี 2557 ที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตัดตอนความฝันของพวกเขา ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา อดีตหัวหน้า คสช. ซึ่งสืบทอดอำนาจต่อมาจนถึงปัจจุบัน จนได้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่พวกเขานักศึกษากระทำไม่ได้ผิด เพียงเพราะเขาต้องการเรียกร้องสิทธิเเละเสรีภาพในฐานะพลเมืองเจ้าของประเทศ จากการกดขี่จากเจ้าหน้าที่ของรัฐ สาเหตุที่พรรคก้าวไกล มีมติไม่เสนอชื่อรายชื่อกรรมาธิการวิสามัญมี 3 ประเด็น หลัก คือ ข้อเเรก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วยในการที่ส.ส.ฝ่ายค้านเสนอให้สภาฯ ส่งรายงานกรณีความเห็นของนักศึกษา ส่งต่อไปยัง ครม. เเต่กลับให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อใช้สภาเป็นตัวกลาง ในประเด็นที่สอง หากเราพิจารณาถึงข้อเรียกร้องของนักศึกษา 3 ข้อ ทั้งในส่วนยุบสภา การกดดันนักศึกษา ทุกอย่างคือ นักศึกษาต้องการให้ผู้ที่ต้องมารับผิดชอบเรื่องนี้เเต่เพียงผู้เดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ และในประเด็นสุดท้าย คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งจากการที่รัฐสภามีการตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรามองไม่เห็นในทิศทางว่าจะมีการแก้ไข เมื่อไหร่ ในทิศทางใด จึงเป็นสิ่งที่เราเห็นว่า ในทุกประเด็น ผู้ที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จริงเรามีคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชนอยู่เเล้ว ที่สามารถรับฟังเสียงเเละปัญหาของนักศึกษา จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องตั้ง กมธ.วิสามัญมาเพื่อซ้ำซ้อน นายกรัฐมนตรี เดินสายพบสื่อได้ ทำไมไม่เดินสายพบนักศึกษา ทำไมต้องใช้สภาฯเป็นตัวกลาง เป็นเครื่องประวิงเวลา เพื่อผลักภาระหน้าที่ ซึ่งผู้ที่จะยุติเรื่องนี้เเต่เพียงผู้เดียวคือ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น
ด้าน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน ว่า คณะกรรมาธิการมีเเนวทางที่เชิญนักศึกษามาร่วมหารือในทุกๆปัญหา ตั้งแต่กรณีแฟลชม็อบ จนถึงในกรณีปัจจุบัน สิ่งที่คณะกรรมาธิการจะทำต่อไป คือลงสังเกตุการณ์ในพื้นที่ชุมนุม ว่ามีการกระทำของเจ้าหน้าที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพนักศึกษาหรือไม่ และขอร้องต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง ว่าการลงพื้นที่สังเกตุการณ์ของคณะกรรมาธิการ เป็นทำหน้าที่ตามบทบาทกรรมาธิการ ไม่ได้มีการใช้พรรคการเมืองสนับสนุนกลุ่มนักศึกษา อย่านำมาใช้เพื่อผลประโยชน์เเละเกี่ยวโยงทางการเมือง ทั้งนี้หากประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมถูกกดดัน เเละถูดลิดรอนสิทธิเเละเสรีภาพ สามารถติดต่อเเละให้ข้อมูลต่อทางคณะกรรมาธิการ จึงอยากให้เจ้าหน้าทีรัฐที่รับภาษีของประชาชน อยู่กับประชาชน กมธ.พัฒนาการเมืองยืนยันว่าจะมีบทบาทที่จะตรวจสอบในเรื่องนี้อย่างเเน่นนอน วิกฤตินี้เป็นวิกฤตที่เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องกอบกู้ศักดิ์ศรี กอบกู้ศรัทธา คืนกลับมา พร้อมให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในสังคมระบอบประชาธิปไตย ท่านต้องไม่กดดันนักศึกษา ท่านต้องให้อิสรภาพทางความคิดเเก่พวกเขา