ม็อบ นศ.บุกทำเนียบรัฐบาลเผารูป "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" อ้างไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากประเทศ ด้าน ตร.ตรึงกำลังเข้ม
เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มภาคีนักศึกษาศาลายา ร่วมกับกลุ่มเครือข่ายนวชีวิน นัดชุมนุม ทำกิจกรรมแสดงออกทางการเมือง โดยไฮไลท์คือการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการเผารูป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยแกนนำอ้างว่า เพื่อเป็นการเผาสิ่งไม่ดีออกไปจากประเทศ
จากนั้นได้มีการอ่านแถลงการณ์ 5 ข้อ คือ 1.การบริการงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนเอารัดเอาเปรียบประชาชน 2.ไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ อาทิ เพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 1000 บาท เพิ่มเงินเดือนคนจบปริญญาตรีเดือนละ 20,000 บาท จึงหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ 3. บริหารงานผิดพลาดจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดทำให้หน้ากากอนามัยขาดแคลน ประชาชนเดือดร้อน 4.ไม่มีการเยียวยาหรือประกันรายได้คนว่างงาน และ 5. ปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรงโดยมีการอุ้มฆ่าสูญหายไปถึง 9 ราย โดยถึงทำร้ายนักกิจกรรม จึงเป็นอาชญากรรมแห่งรัฐ ใช้กฎหมายคุกคามประชาชน หากปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไปจะทำให้เศรษฐกิจพัง ประชาชนทุกข์ยาก จึงขอให้พลเอกประยุทธ์ลาออกทันทีและยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด
ส่วนการรักษาความปลอดได้มีการจัดกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล 150 นาย ร่วมกับตำรวจนครบาล 2 กองร้อย และตำรวจนอกเครื่องแบบ ตรึงกำลังบริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลและหน้าสำนักงาน ก.พ. คุมเข้ม โดยมี พล.ต.ท.ภัคพงษ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ลงมาดูแลสถานการณ์ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ทางตำรวจนครบาลได้เตรียมกำลังไว้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและความปลอดภัยของผู้ชุมนุม โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และหากทำผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี พร้อมกันนี้ พล.ต.ท.ภัคพงษ์ได้มีการพูดคุยชี้แจงกับผู้ร่วมชุมนุมเพื่อทำความเข้าใจถึงขอบเขตของการชุมนุม เนื่องจากการเคลื่อนไหวการชุมนุมของนักศึกษาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เจ้าหน้าที่ประเมินกำลังผิดพลาดจึงทำให้มีเจ้าหน้าที่มาน้อย ครั้งนี้จึงเป็นการเตรียมความพร้อมเพราะมีการเคลื่อนไหวมายังทำเนียบรัฐบาล
สำหรับการแบ่งความรับผิดชอบของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ตำรวจสันติบาลจะตั้งแถวรองรับสถานการณ์ภายในพื้นที่เขตทำเนียบรัฐบาล โดยได้มีการเตรียมถังดับเพลิงเอาไว้ในกรณีที่มีการโยนสิ่งของ หรือจุดไฟเผาสิ่งของและโยนเข้าไปภายใน เป็นต้น ส่วนตำรวจนครบาลจะทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบนอกทำเนียบรัฐบาล