"ส.ว.ประดิษฐ์"ประสานกรมชลประทานแก้ไขปัญหาคูส่งน้ำไม่ถึงปลายน้ำทำเกษตรกรบ้านบ่อโพง ต.หนองขนาน จ.เพชรบุรี ได้รับความเดือดร้อน
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ก.ค. นายประดิษฐ์ เหลืองอร่าม สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาความเดือดร้อนการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรของชาวนาบ้านบ่อโพง หมู่ 7 ต.หนองขนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยนายธนบดี โชติช่วง หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 4 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี โดยมีผู้ใหญ่บ้าน บ้านบ่อโพง นำคณะไปยังบริเวณคูส่งน้ำรูปตัวยู หมู่ที่ 13 ต.ดอนยาง ถึง หมู่ที่ 13 ต.หนองขนาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดที่เริ่มต้นรับน้ำจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ 3 ไปยังคลองระบายน้ำ D13 ที่บ้านบ่อโพงได้ ลักษณะคูดังกล่าวมีขนาดเล็ก ลัดเลาะไปตามพื้นที่การเกษตรของชาวนา ชาวสวนนับพันไร่
นายประดิษฐ์ กล่าวว่าเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรและชาวนาบ้านบ่อโพงว่าได้รับความเดือดร้อนเรื่องน้ำที่ส่งจากคูส่งน้ำมาไม่เพียงพอต้องการใช้อุปโภคและทำการเกษตร อยากให้เพิ่มท่อส่งน้ำเพื่อให้ได้ปริมาณน้ำมากขึ้น จึงได้ร่วมกับชลประทานลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน เบื้องต้นทางชลประทานแจ้งว่าพื้นที่บ้านบ่อโพงนั้นอยู่นอกเขตชลประทาน และระยะทางจากคลองส่งน้ำไปยังนาของเกษตรกรบ้านบ่อโพง ห่างกันประมาณ 14 กิโลเมตร ซึ่งตลอดระยะทางคลองส่งน้ำต้องผ่านนาอีกนับพันไร่ต้นคลอง กลางคลอง ก็สูบน้ำไปใช้ ทำนาทำไร่กัน พี่น้องบ้านบ่อโพงอยู่ปลายคลองกว่าจะถึงปลายทางทำให้น้ำไปถึงไม่พอเพียง หากมีการฝังท่อส่งน้ำเพิ่ม ส่วนหนึ่งก็ทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นจริง แต่ก็จะส่งกระทบกับผู้ใช้น้ำปลายทาง อย่างไรก็ตามทางชลประทานจึงได้เสนอการจัดรอบแบ่งเวรการส่งน้ำ โดยจะมีการประสานกับกลุ่มผู้ใช้น้ำของชลประทาน ซึ่งเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่าย
ด้านนายธนบดี กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลความเดือดร้อนของชาวนาจากจากท่าน สว.ประดิษฐ์ เหลืองอร่าม เรื่องคูส่งน้ำที่ส่งน้ำไปให้เกษตรกรบ้านบ่่อโพง มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร และผู้ใหญ่บ้านอยากให้มีการฝังท่อส่งน้ำเพื่อให้มีปริมาณน้ำเพิ่ม แต่เมื่อทางชลประทานดูแล้วพบว่าจะเพิ่มปริมาณน้ำให้ได้จริง แต่ผลกระทบก็จะเกิดปัญหากับผู้ใช้น้ำที่ปลายทาง
หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 4 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี กล่าวต่อว่า ปัญหาที่ผ่านมาของเกษตรกรบ้านบ่อโพงน้ำไม่พอใช้เนื่องจากอยู่นอกพื้นที่เขตชลประทาน รวมทั้งระยะทางจากคลองส่งน้ำไปยังนาของเกษตรกรบ้านบ่อโพง ห่างกันประมาณ 14 กิโลเมตร ซึ่งตลอดระยะทางคลองส่งน้ำต้องผ่านนาอีกนับพันไร่ต้นคลอง กลางคลอง ก็สูบน้ำไปใช้ ทำนาทำไร่กัน พี่น้องบ้านบ่อโพงอยู่ปลายคลองกว่าจะถึงปลายทางทำให้น้ำไปถึงไม่พอเพียง ดังนั้นชลประทานจึงแนะทางออกร่วมกันโดยการจัดรอบแบ่งเวรการส่งน้ำกัน เช่น 7วันในช่วงที่ส่งน้ำให้ทางสายตรง เราก็ปล่อยน้ำตามปกติให้ทางด้านล่างก่อน พอหมดรอบเวรการส่งน้ำครบ 7 วัน เราก็จะมีน้ำนอนคลองให้ ประมาณ 0.1-0.3 ลูกบากศ์เมตร ซึ่งน้ำส่วนนี้จะไหลลงสู่คูที่แยกมาจากคลองส่งน้ำสายใหญ่ 3ไปยังคลองระบายน้ำ D13 ที่บ้านบ่อโพงได้ โดยจะมีการประสานกับกลุ่มผู้ใช้น้ำของชลประทาน และทางผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งเกษตรกรพอใจในระดับหนึ่ง เพราะว่าช่วงนี้ฝนทิ้งช่วงด้วย การแบ่งรอบเวรการส่งน้ำจะพอบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรได้