"สมศักดิ์" กังขา "อนงค์วรรณ" ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลคดีทุจริตฝ่ายแม้ว หลังผ่านมา 12 ปี มั่นใจภรรยาพร้อมที่จะไปให้ข้อมูล 3 ส.ค.
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีอนุกรรมการป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหา นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ภรรยาคดีทุจริตโครงการฝายแม้ว 770 ล้านบาท สมัยเป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ปี 2551 ว่า เรื่องนี้คงต้องย้อนเวลากลับไปกว่า 12 ปี สมัยตนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง นางอนงค์วรรณ เป็นหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย และได้ดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สาเหตุที่มีการร้องเรียนในสมัยนั้น ตนเข้าใจว่ามีการลงชื่อร้องเรียน แต่การตรวจสอบข้อเท็จจริง คนที่ลงชื่อร้องเรียนได้ยืนยันกับผู้ตรวจสอบว่าตัวเขาเองไม่ได้ลงชื่อร้องเรียน กระบวนการสอบเหมือนจงใจจะชี้นำหรือหาเหตุผลในการจับผิดให้ได้หรือไม่ การพิจารณาเรื่องนี้ยาวนานมีการเปลี่ยนอนุกรรมการหลายชุด จนตนนั้นเข้าใจว่าเรื่องนี้ได้ยุติไปแล้ว กระทั่งเวลาผ่านมาเป็น12 ปี ป.ป.ช.เพิ่งมาแจ้งให้รับทราบว่า นางอนงค์วรรณ เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีในขณะนั้น
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนทราบมาว่าที่ผ่านมา ทส. และกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ตั้งกรรมการสอบสวนตรวจสอบเรื่องนี้หลายครั้ง ว่าได้การดำเนินงานจริงหรือไม่ โดยมีรูปถ่ายยืนยันพร้อมค่าพิกัดของฝายทุกตัว และเมื่อ สตง. ไปตรวจสอบได้ทำหนังสือให้กรมบัญชีกลางเข้าตรวจสอบด้วย ผลการชี้แจงของกรมบัญชีกลาง ยืนยันว่างานที่ออกมามีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับการลงทุน ตนได้ไปศึกษาสาเหตุของการสร้างฝายแม้วจำนวนมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ มีความลาดชันสูง จึงต้องสร้างฝายให้ถี่ เพื่อที่จะอนุรักษ์ดินและน้ำ ฝายดังกล่าวยังช่วยป้องกันไฟป่าเพราะทำให้ดินมีความชุ่มชื้นในเวลานั้นจึงไม่มีไฟป่ามากแต่ขณะเดียวกันในเวลานี้ประเทศกลับถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ประชาชนต้องเป็นโรคทางเดินหายใจ
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการออกแบบฝายเป็นไปตามหลักวิชาการกรมอุทยานที่ได้ศึกษาและกำหนดค่าพิกัดพื้นที่ไว้หลายปี และขั้นตอนการออกแบบมีมาก่อนที่นางอนงค์วรรณจะรับตำแหน่ง โครงการนี้มีการผลักดันมานานแต่ไม่สำเร็จเพราะงบประมาณไม่เพียงพอประโยชน์ของฝายนั้นก็เพื่อดักตะกอน และชะลอการไหลของน้ำ เพื่อให้น้ำซึมลงดินเหมือนกับธนาคารน้ำใต้ดินที่เราพูดถึงกันในปัจจุบัน พื้นที่ป่าต้นน้ำตนขอย้ำว่ามีความสำคัญ เพราะเป็นแหล่งที่จะเติมน้ำให้น้ำกับเขื่อนต่างๆ ดังนั้น การทำฝายชะลอน้ำ ในราคาประมาณตัวละ 5,000 บาท มีอายุการใช้งาน 3-5 ปี จึงเป็นประโยชน์อย่างมาก โดยในปัจจุบันทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยาน และหน่วยงานอื่นยังดำเนินการกิจกรรมนี้อยู่
“เรื่องนี้ยาวนานมาถึง 12 ปี คุณอนงค์วรรณ ไม่เคยถูกเชิญให้เข้าชี้แจงเลย และผมเชื่อว่าเวลานี้ ภรรยาของผมพร้อมที่จะไปให้ข้อมูลในวันที่ 3 ส.ค. อย่างแน่นอน” นายสมศักดิ์ กล่าว