รัฐบาลวอชิงตันสั่งทางการปักกิ่ง ปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน รัฐเท็กซัส ภายในวันศุกร์ (24 ก.ค.) พร้อมกับกล่าวหาฝ่ายหลังโหมปฏิบัติการจารกรรมทางเศรษฐกิจ ความเคลื่อนไหวยิ่งเพิ่มความขัดแย้งหนัก ระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจโลกยุคปัจจุบัน โดยจีนกล่าวว่า นี่คือ “การยั่วยุทางการเมือง” และพร้อมจะตอบโต้อย่างเท่าเทียมกัน
นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การตัดสินใจเกิดจากจีน “ขโมย” ทรัพย์สินทางปัญญา ไม่แต่เพียงของสหรัฐ แต่ของยุโรปด้วย และผลของการขโมย ทำให้คนงานต้องว่างงานหลายแสนคน
นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เผยในระหว่างการแถลงข่าวรายวัน ที่กระทรวงฯ ในกรุงปักกิ่ง เมื่อวันพุธ ว่าสหรัฐแจ้งไปยังรัฐบาลปักกิ่ง อย่างเป็นทางการ เมื่อวันอังคาร (21 ก.ค.) ที่ผ่านมา ว่า ให้จีนปิดสถานกงสุลในเมืองฮิวสตัน ภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมง นับตั้งแต่ได้รับแจ้ง
อย่างไรก็ตาม นายหวังไม่เผยรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับเหตุผลการตัดสินใจของสหรัฐ เพียงแต่กล่าวว่าจีนประณามคำสั่งดังกล่าว “ด้วยถ้อยคำรุนแรงที่สุด” เนื่องจากถือเป็นการละเมิดกฎหมายทางการทูตในทุกด้าน พร้อมกับเตือนว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน และจีนพร้อมที่จะตอบโต้อย่าง “สมน้ำสมเนื้อกัน”
สถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2522 เป็นสถานกงสุลจีนแห่งแรกในสหรัฐอเมริกา และก่อตั้งในปีแรกที่สหรัฐกับจีนสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตต่อกัน สถานกงสุลแห่งนี้มีภารกิจดูแลผลประโยชน์จีน ครอบคลุมพื้นที่ 8 รัฐทางภาคใต้ของสหรัฐ รวมถึงเท็กซัสและฟลอริดา ปัจจุบันจีนมีสถานกงสุลใหญ่ในสหรัฐ 5 แห่ง นอกเหนือจากสถานเอกอัครราชทูตในกรุงวอชิงตัน.