ป.ป.ช.ฟัน"ยิ่งลักษณ์- 2 สื่อ" จัดอีเว้นท์ 240 ล้าน

2020-07-22 23:40:27

ป.ป.ช.ฟัน"ยิ่งลักษณ์- 2 สื่อ" จัดอีเว้นท์ 240 ล้าน

Advertisement

ป.ป.ช.ฟัน “ยิ่งลักษณ์-สุรนันทน์-นิวัฒน์ธำรง” พ่วง 2 สื่อปมจัด Roadshow Thailand 2020 วงเงิน 240 ล้าน  ชงอัยการสูงสุดฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาสำนวนการไต่สวนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อนุมัติและดำเนินการจัดนิทรรศการ การสัมมนา และการโฆษณาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” โดยมิชอบ ซึ่งปรากฎข้อเท็จจริงฟังได้ว่า หลังจาก ครม.ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งมีการกล่าวถึงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางระบบรถไฟทางคู่เชื่อมชานเมืองและหัวเมือง ศึกษาและพัฒนารถไฟความเร็วสูง จากนั้นรัฐบาลได้ยกร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ หรือ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้มีดำริให้จัดนิทรรศการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนภายใต้ชื่อ “โครงการ Roadshow สร้างอนาคตไทย Thailand 2020” ซึ่งปรากฎว่าในการดำเนินการโครงการดังกล่าวมีการอนุมัติงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น วงเงิน 40 ล้านบาท เพื่อจัดโครงการในจั จ.หนองคายและนครราชสีมา แต่ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทยังไม่ผ่านสภาฯ อีกทั้งการจัดโครงการประชาสัมพันธ์ไม่ใช่ความเร่งด่วนที่จะต้องใช้งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจำเป็น โดยบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)เป็นผู้รับจ้างจัดโครงการดังกล่าว โดยกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้างใช้เวลาดำเนินการเพียง 2 วัน ต่อมานายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันอนุมัติหลักการจัดโครงการ Roadshow อีก 10 จังหวัดที่เหลือ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยตกลงแบ่งงานให้บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามสปอร์ตฯ บริษัทละ 5 จังหวัด ซึ่งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้างใช้เวลาดำเนินการเพียงวันเดียวเท่านั้น และพบว่าการลงนามในหนังสือสั่งจ้างได้กระทำไปก่อนที่ได้รับเงินประจำงวดจากสำนักงบประมาณ ทั้งที่ส่วนราชการทราบดีว่าการลงนามในหนังสือสั่งจ้างได้ ก็ต่อเมื่อสำนักงบประมาณได้แจ้งจัดสรรเงินงบประมาณ (ใบงวดงาน)มาให้แล้วเท่านั้น 


ภายหลังมีการเสนอ ครม.ให้ยกเว้นการลงนามในหนังสือสั่งจ้างก่อนใบงวดงาน ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ตราขึ้นโดยมิใช่กรณีจำเป็นเร่งด่วน ไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มีผลให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นอันตกไป ทำให้โครงการต่าง ๆ ตามที่ได้ออกไป Roadshow มิได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด การใช้งบประมาณในโครงการ Roadshow จำนวน 240 ล้านบาท จึงเกิดความสูญเปล่า เป็นเหตุให้ทางราชการได้รับความเสียหาย คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายนิวัฒน์ธำรง และนายสุรนันท์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และ 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 192 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ 2542 มาตรา 12 และ 13 ส่วนการกระทำของของบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายฐากูร บุนปาน บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคจ จำกัด(มหาชน) และนายระวิ โหลทอง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานะเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151, 157 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 192 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐ 2542 มาตรา 4 ฐานเป็นผู้สนับสนุน จึงให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นพร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และผู้ที่เกี่ยงข้องต่อไป