"กรณ์" ชี้ 10 ความกล้ารัฐบาลต้องทำสำคัญที่สุด ระบุประชาชนเห็นแต่การแก่งแย่งกันเองในแต่ละพรรค การชิงดีชิงเด่นระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ยังไม่เห็นจะได้อะไรจากการปรับ ครม.
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์ข้อความผ่านเพจ กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij ระบุว่า ปรับ ครม. ประชาชนต้องได้ประโยชน์ 10 ความกล้า! ที่รัฐบาลต้องทำ
1. กล้า..ช่วย SME ให้รอด เพื่อความอยู่รอดของลูกจ้างทั่วประเทศ และความอยู่รอดของเศรษฐกิจไทย ต้องมีการอัดฉีดเงินช่วยเหลืออย่างมีระบบให้เข้าถึงเจ้าของธุรกิจโดยเฉพาะขนาดเล็ก-กลางได้ง่ายเร็วและทั่วถึง
2. กล้า..รื้อการใช้เงินกู้ 4 แสนล้าน ยกเลิกแผนการใช้เงินฉุกเฉินเหมือนเป็นเงินงบประมาณปกติ เปลี่ยนจากโครงการที่ราชการเสนอมาเป็นมาตรการยิงตรง ที่แก้ปัญหาได้แม่นยำกว่า มีผลต่อการเบิกจ่ายเร็วกว่าและมีโอกาสรั่วไหลน้อยกว่า
3. กล้า..กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศอย่างเข้มข้น สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดในตอนนี้ คือหา "จุดสมดุลระหว่างการควบคุมโรคระบาด และเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจ" ให้ได้ อย่าติดกับดักตัวเอง ต้องกล้าตัดสินใจ และมีความเป็นมืออาชีพในการจัดการ
4. กล้า.. ‘disrupt’ ตัวเองด้วย GovTech ระบบราชการทั้งหมดต้องเปลี่ยนจาก ‘ระบบลายเซ็น’ และระบบการเรียกเอกสาร เป็น e-government อย่างแท้จริง
5. กล้า..ทำงานเป็นมืออาชีพ รัฐบาลต้องเป็นหนึ่งเดียว เลิกชิงดีชิงเด่น เลิกต่างคนต่างทำ กระทรวงหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต้องทำงานอย่างสอดประสานกัน หากแต่ละกระทรวงไม่ทำงานแบบร่วมมือกัน แยกพรรคแยกพวกแย่งโควตา ประเทศไทยในเวลานี้ก็ยากที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. กล้า..กำหนดยุทธศาสตร์ในแต่ละภาคอุตสาหกรรมเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงวิกฤตและหลังโควิดอย่างเป็นรูปธรรม หัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่ควรมองความเชื่อมโยงของอุตสาหกรรมเกษตร และอาหารของไทย และ Target Group ที่มีศักยภาพต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยุทธศาสตร์ Work From Thailand รวมไปถึงนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ และกลุ่ม SilverAge จะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจที่สำคัญ
7. กล้า..เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี ถึงเวลาแล้วที่ช่องทางหารายได้ของรัฐทำได้ยากมาก รัฐโดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ต้องกล้าทบทวนทำให้ธุรกิจใต้ดินพลิกมาเป็นธุรกิจบนดิน จากที่ผู้ได้ประโยชน์เป็นผู้มีอิทธิพลไม่กี่คน เป็นกิจการที่มีการกำกับดูแลที่ดีและมีการเสียภาษีตามระบบ จากนั้นรัฐสามารถลดภาระที่ไม่เป็นธรรมของคนชั้นกลางลงได้
8. กล้า..สร้างงานและสวัสดิการถ้วนหน้า รัฐต้องมีมาตรการเร่งด่วนรองรับปัญหาการว่างงาน โดยเฉพาะแรงงานภาคบริการและกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ รัฐต้องพร้อมกระตุ้นการสร้างงานนับล้านงานทันที และนอกจากนั้นรัฐต้องให้ความสําคัญกับแรงงานของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ Soft Power ได้แก่กลุ่มคนทำงานด้าน Creative Entertainment คนวงการบันเทิง คนวงการศิลปะ ที่เป็น Freelance รวมไปถึงนักร้อง พนักงานร้านอาหาร และคนทำงานสถานบันเทิง ฯลฯ คนกลุ่มนี้ตกหล่น และถูกมองข้ามมาโดยตลอด เพราะมีลักษณะการทำงานอิสระไม่อยู่ในฐานข้อมูลเดิมของภาครัฐ
9. กล้า..สร้างอนาคตให้ภาคการเกษตร สร้างความยั่งยืนในภาคเกษตรกรรมสำหรับอนาคต
- ใช้ พรก. กู้เงิน พัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเกษตรกรรายย่อย (โครงการ 1 หมู่บ้าน 1 บ่อน้ำ)
- งบกองทุนเครื่องจักรทางการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานภาคเกษตร
- Big Data ช่วย Agri Tech ให้ข้อมูลดินฟ้าอากาศที่แม่นยำ
และวางแผนการปลูกได้ตามสภาพอากาศ
และช่วยวางแผนความต้องการตลาด
- ปฏิรูประบบสหกรณ์ ให้เป็นองค์กรทันสมัย เพื่อการเกษตรที่ทันสมัย
ช่วยเกษตรกรเข้าถึงตลาดโดยตรง
10. กล้า..สร้างระบบการศึกษาที่สร้างอาชีพให้เด็กไทย เน้นการศึกษาในสายวิชาชีพ จบแล้วต้องมีงาน และทำงานได้จริง เด็กอาชีวะต้องเป็นเด็กคุณภาพ เรียนจริง รู้จริง ทำงานได้จริง ที่สำคัญคือ เลี้ยงชีพได้จริง!
ที่สำคัญที่สุด วันนี้รัฐบาลต้องฟื้นคืนศรัทธา วันนี้ประชาชนเห็นแต่การแก่งแย่งกันเองภายในแต่ละพรรค และการชิงดีชิงเด่นระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน แต่ที่ยังไม่เห็นเลยก็คือความชัดเจนว่าประชาชนจะได้อะไรจากการปรับ ครม.
ขอบคุณเพจ กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij