ชาวบ้านพบเสื้อซุกใต้กอไผ่ คล้ายเสื้อผู้ต้องสงสัยคดี "น้องชมพู่"

2020-07-21 23:10:26

ชาวบ้านพบเสื้อซุกใต้กอไผ่ คล้ายเสื้อผู้ต้องสงสัยคดี "น้องชมพู่"

Advertisement

"สิระ" ลงพื้นที่บ้านกกกอก ติดตามคดี "น้องชมพู่"  พบเสื้อส้มปริศนาซุกใต้กอไผ่ ในลำห้วยบุงคล้ายเสื้อผู้ต้องสงสัย

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีคดี ด.ญ.อรวรรณ วงค์ศรีชา หรือ  "น้องชมพู่" วัย 3 ขวบ เสียชีวิต ในสภาพเปลือย กลางป่าภูเหล็กไฟ บ้านกกกอก  ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เด็กขึ้นไปเสียชีวิตในป่าได้อย่างไร ที่ผ่านมาตำรวจ ได้เรียกสอบปากคำและตรวจดีเอ็นเอ คนในพื้นที่ จำนวนมาก เพื่อหาความเชื่อมโยงคดี ล่าสุดวันนี้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายสิระ เจนจาคะ ประธาน กมธ. ได้ลงพื้นที่ตหลังจากมีการร้องเรียนว่าการทำงานของพนักงานสอบสวนอาจละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4


สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการมาพูดคุยกับชาวบ้านถึงกรณีการร้องเรียน ว่าการทำงานการเก็บหลักฐานและการนำเสนอข่าว อาจละเมิดสิทธิมนุษยชนของชาวบ้าน โดยในช่วงเช้าวันนี้กรรมาธิการได้ขึ้นไปสำรวจบริเวณจุดพบศพ โดยชาวบ้านกกกอก  นำคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร หรือ กมธ.ขึ้นไปบนภูเหล็กไฟ เขตอุทยานแห่งชาติภูผายล เพื่อดูเส้นทาง และจุดที่พบศพน้องชมพู่  หลังจากรับฟังรายงานการสอบสวน ของคณะสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ยืนยันว่า ไม่มีความกดดันในการทำงาน และทำคดีตามพยานหลักฐานอย่างเต็มความสามารถ โดยยอมรับฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และคลี่คลายคดีนี้

ด้านนางพรศรี เงินนาม อายุ 38 ปี ชาวบ้านกกกอก เล่าว่า ตนเองพร้อมด้วยชาวบ้านกกกอก ประมาณ 5 คน ไปหาหน่อไม้ประมาณบ่าย 3 โมง ได้ลอดเข้าไปในกอไม้ไผ่เจอเสื้ออยู่ใต้ขอนไม้ เป็นกอง ๆ แล้วได้เรียกเพื่อนมาดู และเมื่อช่วงเช้าในวันนี้ ได้แจ้งตำรวจ เสื้อสีส้มมีสีเทาผสมด้วยอยู่ในลำห้วยบุง เสื้อซุกอยู่ในกอไผ่คล้ายเสื้อผู้ต้องสงสัยคดีชมพู่ บริเวณใต้กอไผ่ติดกับห้วยบุง ใกล้กับสวนยางพาราชาวบ้าน บ้านกกกอก โดยตำรวจ สภ.กกตูมได้เข้าตรวจสอบ พร้อมด้วยพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเก็บเสื้อต้องสงสัยดังกล่าวไปตรวจพิสูจน์ เพื่อหาผลดีเอ็นเอในเสื้อ ว่าตรงกับผู้ใดและเกี่ยวข้องกันหรือไม่


ด้านนายไชย์พล วิภา ลุงของน้องชมพู่ กล่าวว่า กรณีสื่อและเจ้าหน้าที่เข้ามาปฏิบัตหน้าที่ในหมู่บ้านกกกอก ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี และชาวบ้านส่วนใหญ่จะอยู่กันแบบง่าย ๆ ส่วนการทำงานของสื่อที่อยู่ในพื้นที่พยายามนำเสนอในไทม์ไลน์ของลุง ป้า และพ่อ แม่น้อง ก็เป็นหน้าที่ของสื่อที่เขานำเสนอ คนส่วนใหญ่เขาติดตามข่าว ถ้ามีสื่อในพื้นที่ถือว่าเป็นเรื่องดี เป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยเหลือพวกเราได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกไปสอบตั้งแต่แรกเลย ประมาณ 4-5 วัน มีการเก็บหลักฐานบางอย่าง จากนั้นก็ไม่มีเรียกไปสอบ และได้มาเก็บหลักฐานที่บ้านเพิ่มเติม ส่วนประเด็นไหนที่พ่อแม่เขาสงสัย เขาไม่กล้าที่จะคุยกับผม เขาคุยผ่านสื่อ ผมก็ตอบผ่านสื่อ แต่ถ้าจะมานั่งคุยกันก็พร้อมคุย ส่วนความขัดแย้งในชุมชนเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย คิดว่าชาวบ้านเขาอยู่อย่างอึดอัดใจ ต่างคนก็ต่างไม่กล้าทักทายกันเหมือนเมื่อก่อน กลัวจะเป็นผู้ต้องสงสัย กลัวจะมีคนสอบถาม