ออกหมายจับแม่ของลูกจ้างสาวโกงเงินหลวง 40 ล้าน

2020-07-21 17:40:04

ออกหมายจับแม่ของลูกจ้างสาวโกงเงินหลวง 40 ล้าน

Advertisement

ออกหมายจับเพิ่มมารดาของลูกจ้างสาวโกงเงินหลวง 40 ล้าน ส่วนหัวหน้าการเงินสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดนมาตรา 157 

จากกรณี น.ส.ขนิษฐา หอยทอง อายุ 28 ปี พนักงานวิชาการการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถูกจับข้อหายักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสารของทางราชการและใช้เอกสารปลอมยักยอกเงินงบประมาณของทางราชการ 39.2 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.63 จากการโอนเงินผ่านระบบการเงินการคลังภาครัฐแบบอิเลคทรอนิคส์ หรือ GFMIS โอนเข้าบัญชีส่วนตัว และ พบการกระทำความผิดในการทำข้อมูลหลักฐานเท็จจากการปลอมเช็ครวม 165 ครั้ง ขณะนี้ถูกควบคุมตัวฝากขังผัดที่ 3 ในเรือนจำ จ.ประจวบคีรีขันธ์


เมื่อวันที่ 21  ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อนุมัติให้ออกหมายจับ นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/21 หมู่ 8 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มารดาของ น.ส.ขนิษฐา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพร้อมหมายจับเดินทางไปยังบ้านพักนางสายพิณ ล่าสุดยังไม่พบตัว สำหรับหัวหน้าการเงินสำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงแจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เชิญตัวมารับทราบข้อกล่าวหาในมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

ด้าน นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่าคดีทุจริตอยู่ระหว่างการสอบข้อเท็จจริงในระดับจังหวัด ภายหลังแต่งตั้งนายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล ปลัดจังหวัดทำหน้าที่ประธานฯคาดว่าจะสรุปผลได้ภายในเดือน ก.ค.นี้ สำหรับสาเหตุมีการรายงานผลการสอบสวนล่าช้า หลังพบการทุจริตตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2563 เนื่องจากจะต้องขอให้ผู้เชี่ยวชาญในการใช้ระบบเทคโนโลยีด้านสารสนเทศจากส่วนกลางร่วมสอบสวนและให้ข้อมูล แต่เบื้องต้นยืนยันว่าพนักงานราชการได้กระทำการทุจริตโอนเงินในระบบเพื่อนำไปเล่นการพนันออนไลน์เพียงรายเดียว และหลังจากได้ผลสรุปจากคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว จะมีการแต่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยและทางละเมิดกับหัวหน้าสำนักงานจังหวัด หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ หัวหน้างานการเงินและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการลงนามเบิกจ่ายทุกราย เนื่องจากอาจมีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณตามที่กรมบัญชีกลางกำหนดแนวทางไว้ สำหรับผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ ส่วนตัวยันยันว่าไม่หนักใจ หากการเบิกจ่ายเกี่ยวข้องกับความบกพร่องของบุคคลใดก็ต้องรับผิดชอบกับความเสียหายกับงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งกรมบัญชีกลางได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการชดใช้ความเสียหายไว้แล้ว


ด้านแหล่งข่าวจากทีมสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ระบุว่า หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ สรุปส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในความผิดของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ แต่ขณะนี้ ป.ป.ช.จังหวัดได้ส่งสำนวนกลับให้พนักงานสอบสวนดำเนินการทางคดีอาญา จากนั้นทีมพนักงานสอบสวนได้ประชุมเพื่อสรุปแนวทางส่งให้หน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยพบว่ามียอดเงินที่ทุจริตมีมากกว่า 40 ล้านบาท สำหรับลายมือชื่อของข้าราชการ 4 ราย ในสำนักงานจังหวัดที่ปรากฏในเช็คงบประมาณจังหวัด 78 ใบ ได้ส่งให้สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่าเป็นการลงลายมือชื่อจริงหรือถูกปลอมแปลงหรือไม่ จากนั้นจะได้ดำเนินการต่อไป