เตรียมนำเด็กชายบุคคลอันตราย มีพฤติกรรมชอบจับก้นและหน้าอกผู้หญิงไปตรวจสภาพจิตที่ รพ.เพชรบูรณ์
วันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.วังชมภู อ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้ออกหนังสือแจ้งเตือนระวังบุคคลอันตราย ซึ่งเป็นเด็กชายวัย 14 ปี ที่มีพฤติกรรมชอบทำอนาจารจับก้นและหน้าอกของผู้หญิง รวมทั้งยังชอบลักเล็กขโมยน้อย ล่าสุดได้ถือมีดเข้าไปในโรงเรียนดังกล่าว จึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่บุคคลทั่วไป จึงได้ออกหนังสือดังกล่าว พร้อมทั้งวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ ดร.ไท พานนท์ รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 1 ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์ ผอ.โรงเรียนที่ออกหนังสือดังกล่าว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.วังชมภู เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีย่อยวังชมภู นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ รพ.เพชรบูรณ์ คณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียน รวมทั้ง ด.ช.เอ (นามสมมติ) และผู้ปกครอง(พ่อ) ร่วมกันหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว
นายไสว ศรีบุรินทร์ นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ รพ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เด็กชายดังกล่าว เคยได้เข้ารับการบำบัดรักษาสภาพจิตใจ เนื่องจากครอบครัวที่ทั้งพ่อและแม่ติดสุราทำให้ ด.ช.เอ ได้รับผลกระทบทางจิตใจในปี 2560 แต่การรักษาไม่ต่อเนื่องและไม่ได้พบแพทย์เลยตั้งแต่ปลายปี 2560 แต่ทั้งนี้ก่อนที่จะมีการบำบัดรักษา ได้มีการทดสอบไอคิวและสภาวะทางจิตใจ พบว่า เด็กชายคนดังกล่าวมีไอคิวความคิดค่อนข้างสูง สภาพจิตใจดี แต่หลังจากปี 2560 แล้วก็ไม่ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ซึ่งคงต้องนำเด็กไปทำการทดสอบอีกครั้ง
ด้าน น.ส.ณัฐริกา ชมปรีดา นักพัฒนาสังคมชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมและครอบครัวว่า จะสามารถดูแลเด็กชายเอ ไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็จะทำการสอบรายละเอียด และความสมัครใจของผู้ปกครองและเด็กว่า ยินยอมที่จะไปอยู่ในสถานที่ที่จัดให้หรือไม่ แต่ทั้งนี้ต้องรอการตรวจสอบไอคิว สภาวะจิตใจและความพร้อมของเด็กด้วย
ดร.ไท พานนท์ รอง ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 1 กล่าวสรุปว่า ในเบื้องต้น ด.ช.เอ ยินยอมที่จะไปตรวจสภาพจิตใจ วัดไอคิว รวมทั้งตรวจสภาพร่างกายที่ รพ.เพชรบูรณ์ โดยนัดหมายกันในวันพรุ่งนี้ 22 ก.ค. เวลา 09.30 น. จากนั้นก็จะนำผลการตรวจส่งให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปทำการวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางในการช่วยเหลือเด็กชายคนนี้ต่อไป
ด้าน ด.ช.เอ กล่าวเพียงสั้นๆว่า ตนเองวิ่งไล่หยอกล้อตามความสนุกสนานเท่านั้น บางครั้งก็ขอเงินเพื่อนำไปซื้อขนม แต่ไม่เคยจับก้นหรือทำอนาจารคนอื่นๆ หรือขโมยข้าวของแต่อย่างใด