ศาลอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตา มีคำพิพากษาเมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) ให้ลงโทษจำคุกหัวหน้าใหญ่ 2 คน ของกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือ เจไอ (Jemaah Islamiyah : JI) เครือข่ายกลุ่ม อัล-กออิดะห์ ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากความผิดในข้อหาก่อการร้าย เกี่ยวพันกับการส่งนักรบและเงินสนับสนุน ไปช่วยกลุ่มไอเอสในซีเรีย
นายปารา วิจายันโต หัวหน้าใหญ่ และนายบูดี ตรีกายันโต รองหัวหน้าใหญ่ กลุ่มเจไอ ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี และ 6 ปีครึ่ง ตามลำดับ โดยศาลแขวงจาการ์ตาตะวันออก ซึ่งตัดสินคดีผ่านระบบจอภาพทางไกล เนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
นายอเล็กซ์ อาดัม ไฟซาล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะที่ตัดสินคดีนี้ กล่าวว่า จำเลยทั้ง 2 คนจัดส่งนักรบไปซีเรีย และส่งเงินค่าใช้จ่ายไปให้นักรบเหล่านี้ ขณะที่ปฏิบัตภารกิจช่วยกลุ่มไอเอสสู้รบ โดยนายวิจายันโตอายุ 56 ปี ซึ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของกลุ่มเจไอเมื่อปี พ.ศ. 2552 เกณฑ์ชาวอินโดนีเซียไปสู้รบในซีเรีย ระหว่างปี พ.ศ. 2555 - 2561 และนำนักรบเหล่านี้เข้ารับการฝึก กับกลุ่มก่อการร้ายหลายกลุ่ม รวมถึงกลุ่มอัล-กออิดะห์
เจไอซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียประกาศให้เป็นกลุ่มนอกกฎหมายในปี 2551อยู่เบื้องหลังการโจมตีก่อการร้ายครั้งใหญ่ในอินโดนีเซียหลายครั้ง รวมถึงการลอบวางระเบิดย่านสถานบันเทิงบนเกาะบาหลี แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของประเทศ เมื่อปี 2545 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ จากกว่า 20 ประเทศ รวมถึงออสเตรเลีย ซึ่งเสียชีวิตมากที่สุด 88 ศพ
และในปี 2552 กลุ่มเจไอใช้ระเบิดรถยนต์ หรือ คาร์บอมบ์ โจมตีโรงแรมหรู เจดับเบิลยู แมร์ริออต ย่านใจกลางเมืองหลวงกรุงจาการ์ตา มีผู้เสียชีวิต 12 คน และได้รับบาดเจ็บ 150 คน และในปีต่อมาคาร์บอมบ์พลีชีพโจมตีสถานทูตออสเตรเลียในกรุงจาการ์ตา
ในระยะหลัง กลุ่มเจไอถูกบดบังโดยหลายกลุ่มติดอาวุธในอินโดนีเซีย ซึ่งเกี่ยวดยงกับกลุ่มไอเอสในซีเรียและอิรัก แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเตือนว่า ล่าสุดกลุ่มเจไอกำลังซุ่มรวมพลังใหม่อย่างเงียบๆ เพื่อกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง.