รัฐบาลอังกฤษประกาศระงับ สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กับเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน เมื่อวันจันทร์ (20 ก.ค.) เพื่อประท้วงกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ ที่รัฐบาลปักกิ่งบังคับใช้กับฮ่องกง โดยการตัดสินใจที่คาดว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ตึงเครียดกับจีนเลวร้ายลงอีก ให้มีผลในทันที และโดยไม่มีกำหนด
นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ แถลงยืนยันการระงับข้อตกลงส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกง ต่อที่ประชุมรัฐสภา ในกรุงลอนดอน โดยการระงับตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ มีขึ้นแม้ว่ารัฐบาลจีนจะส่งเสียงเตือนว่า อังกฤษกำลังดำเนินนโยบายต่างประเทศผิดพลาดอย่างมหันต์ และเสี่ยงต่อการถูกตอบโต้เอาคืน
นายราบยังประกาศขยายเวลา มาตรการห้ามจีนส่ง “อาวุธร้ายแรง” ให้ฮ่องกง ที่บังคับใช้มาตลอด 3 ทศวรรษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ออกไปอีก
ความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างลอนดอนกับปักกิ่ง ทวีความตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด หลังจากจีนเริ่มบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฮ่องกงฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยอังกฤษและกลุ่มประเทศพันธมิตรตะวันตก กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้กัดกร่อน สิทธิเสรีภาพพลเมือง และสิทธิมนุษยชน ในฮ่องกง หนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจการเงินสำคัญของโลก
การระงับสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของอังกฤษ มีขึ้นหลังจากหลายประเทศพันธมิตร เช่น สหรัฐ แคนาดา และออสเตรเลีย ดำเนินมาตรการรุนแรงคล้ายกันต่อจีน
ก่อนหน้านี้ปักกิ่งกล่าวหาลอนดอน เป็นหุ่นเชิดนโยบายต่างประเทศวอชิงตัน ในการกีดกันหัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศคว่ำบาตรหัวเว่ย ไม่ให้เข้าถึงอุปกรณ์ชิป ที่สำคัญต่อโครงข่ายระบบ 5จี ของบริษัท โดยสหรัฐเชื่อว่า บริษัทหัวเว่ยเป็นกิจการหน้าฉากของรัฐบาลจีน ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ย จึงอาจเป็นอันตรายต่อการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรอง.