"ธนาธร"ปฏิเสธอยู่เบื้องหลังการชุมนุมกลุ่มยาวชนปลดแอก ไม่ขอต่อล้อต่อเถียง "ปารีณา"ท้าสาบาน
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก โดยยืนยันว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมครั้งนี้ และไม่เคยให้เงินเป็นค่าจ้างกลุ่มกับกลุ่มแกนนำ และเชื่อว่าการออกมาชุมนุมของกลุ่มคนเหล่านั้น ก็ไม่ได้รับอามิสสินจ้างจากใครด้วย แต่เป็นความเคลื่อนไหวเพื่อต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า ส่วนที่ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ท้าสาบานว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาจริงๆ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ขอต่อล้อต่อเถียงด้วย
นายธนาธร กล่าวถึงกรณีตำรวจเตรียมดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการละเมิดสถาบันว่า ขอเรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันปกป้องกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกเรียกร้องประชาธิปไตยในวันนี้ เพราะสิ่งที่เขาทำทำเพื่ออนาคตของประเทศ หากไม่ปกป้องก็จะไม่มีใคร ออกมาต่อสู้แทนประชาชนได้ เพราะถือเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความกล้าหาญ พร้อมมองว่า การที่ออกมาข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีเป็นกลยุทธ์ของฝ่ายรัฐบาล เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลัว ไม่กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน
เมื่อถามถึง กรณีที่มีคนของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลออกไปร่วมชุมนุมด้วย นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะคนของอดีตพรรคอนาคตใหม่ต่างก็เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นเมื่อมีการออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้พวกเราก็พร้อมที่จะร่วมสนับสนุน ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ให้ยุบสภานั้น นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่ขอแสดงความเห็นเพราะเป็นเรื่องของกลุ่มผู้ชุมนุม
นายธนาธร กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะต้องหันหน้าเข้าหากัน เพราะถึงจุดที่จะใกล้เกิดวิกฤตการเมืองแล้ว ซึ่งหากปล่อยให้วิกฤตการเมืองครั้งนี้เกิดขึ้น มันจะรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมามาก แต่ยังพอมีเวลาเหลืออยู่ที่จะยับยั้งวิกฤตนี้ได้ เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียของประชาชนขึ้นอีก อย่ารอให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายขึ้นมาก่อนแล้วค่อยหันหน้าพูดคุยกัน ข้อเสนอนี้ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางออกเดียวของสังคมไทย เพื่อหาข้อตกลงใหม่ ที่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน