สหรัฐติดโควิดท่วมโรงพยาบาล ตายไร้ที่เก็บ ยัดศพในรถบรรทุก

2020-07-20 08:10:00

สหรัฐติดโควิดท่วมโรงพยาบาล   ตายไร้ที่เก็บ ยัดศพในรถบรรทุก

Advertisement



คำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่ให้คำมั่นว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ใกล้จะอยู่ภายใต้การควบคุมแล้วเมื่อวานนี้ (วันอาทิตย์) สวนทางกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในสหรัฐอย่างมาก เพราะเกือบทุกรัฐยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงต่อเนื่อง ล่าสุดรัฐฟลอริดา รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงกว่า 10,000 ราย เป็นวันที่ 5 ติดต่อกันแล้ว โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ในฟลอริดาในวันอาทิตย์ อยู่ที่ 12,478 ราย และเสียชีวิต 87 ราย แต่นายรอน เดแซนติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ก็ยืนกรานไม่สั่งให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย โดยกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า รัฐฟลอริดาจะไม่เอาผิดประชาชนที่ปฏิเสธการสวมหน้ากากอนามัย

ผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มสูงขึ้นใน 42 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐ ในหลายเมืองที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด สถานที่เก็บศพหลายแห่งแทบไม่มีที่ว่างเหลือแล้ว เจ้าหน้าที่บางรัฐต้องดัดแปลงใช้ทั้งห้องเย็น และรถบรรทุกห้องเย็นเป็นที่เก็บศพแทน ขณะที่ โรงพยาบาลเองก็พยายามดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อรับมือกับผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น




เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในหลายรัฐสูงขึ้น ก็ดันผู้เสียชีวิตและติดเชื้อทั่วประเทศสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ ผู้เสียชีวิตทั่วสหรัฐพุ่งผ่านหลัก 140,000 รายไปแล้ว และติดเชื้ออีก 3.7 ล้านราย

สำนักข่าวรอยเตอร์ วิเคราะห์ข้อมูลในแต่ละเมืองและแต่ละรัฐของสหรัฐประจำสัปดาห์ และรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไวรัสมรณะ ประมาณ 5,000 คนต่อสัปดาห์ โดยในรัฐแอริโซนาและเท็กซัส เจ้าหน้าที่เตรียมรับมือผู้เสียชีวิตเพิ่มด้วยการนำรถเทรลเลอร์ห้องเย็นและห้องเย็น เข้ามาเก็บศพก่อนการเผา หรือฝัง



รัฐฟลอริดา, แคลิฟอร์เนีย, เท็กซัสและรัฐทางภาคใต้และตะวันตก ยังมีผู้ติดเชื้อทำสถิติสูงสุดทุกวัน กระนั้นก็ตาม แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศจะยังทะยานต่อเนื่อง แต่รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็ยังคงเดินหน้าผลักดันให้เปิดโรงเรียนในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ อีกทั้งยังต่อต้านการสั่งห้ามประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะด้วย

ทรัมป์ปกป้องวิธีการของเขาในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ในการให้สัมภาษณ์รายการ “ฟ็อกซ์นิวส์ ซันเดย์” ทางสถานีโทรทัศน์ ฟ็อกซ์นิวส์ เมื่อวันอาทิตย์ รวมทั้งถ้อยแถลงของเขาที่ว่า ไวรัสก็เหมือนถ่านไฟที่ยังลุกโชนอยู่ทั่วประเทศ เมื่อเรามีถ่านที่ยังไม่มอด มันก็ต้องมีไฟ รัฐฟลอริดากลายเป็นรัฐที่ไม่ต่างจากถ่านไฟที่ยังคุอยู่ แต่มันจะอยู่ภายใต้การควบคุม ทรัมป์ย้ำคำยืนยันของเขาว่า ไวรัสจะหายไปในที่สุด

สวนทางกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี เตือนว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอาจพุ่งสูงขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และฤดูฝนในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้ ขณะนี้ มีอย่างน้อย 14 รัฐรายงานผู้ป่วยถูกส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาลมากที่สุดในเดือนกรกฎาคม ซึ่งรวมทั้งรัฐแอละแบมา, แอริโซนา, จอร์เจีย, ฟลอริดา, นอร์ทแคโรไลนา, เนวาดาและเท็กซัส อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่เห็นด้วยกับนายโรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการซีดีซี ที่ว่า ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และฤดูฝนนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากต่อสาธารณสุขของอเมริกา เพราะโรงพยาบาลก็เคยรับมือกับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ประจำฤดูกาลที่มากกว่าไวรัสโควิดด้วยซ้ำ ทรัมป์ บอกว่า เขาไม่รู้และไม่คิดอย่างที่เรดฟิลด์รู้



ขณะเดียวกัน ทรัมป์ ยังเรียก ดร.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและโรคภูมิแพ้แห่งชาติ นักระบาดวิทยาคนสำคัญในทีมที่ปรึกษาทำเนียบขาว “พวกกระต่ายตื่นตูม” โดยเฟาซีเตือนว่า ผู้ติดเชื้อรายวันอาจพุ่งสูงถึง 100,000 คนต่อวัน หากชาวอเมริกันไม่ร่วมมือกันใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัส ตอนนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ย 60,000 คนต่อวัน และรายงานการติดเชื้อทำสถิติสูงสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อยู่ที่ 77,299 คน การขาดการตรวจหาเชื้อและผลตรวจล่าช้าในหลายรัฐ กำลังเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการสกัดกั้นการระบาดของไวรัส

แทนที่จะเพิ่มการตรวจหาเชื้อ รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ กลับต้องการคัดค้านการสนับสนุนด้านงบประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 790,000 ล้านบาท ให้รัฐต่าง ๆ เพื่อดำเนิินการตรวจหาเชื้อและติดตามผู้ต้องสงสัย จากการรายงานของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์และนิวยอร์กไทม์ส แต่ทำเนียบขาวก็ปฏิเสธรายงานของสื่อเหล่านี้เมื่อวันอาทิตย์

ส่วนผู้ติดเชื้อทั่วโลก จนถึงเช้าวันจันทร์ เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 14 ล้านรายแล้ว และเสียชีวิตมากกว่า 600,000 ราย องค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานผู้ติดเชื้อรายวันทำสถิติสูงสุดในรอบ 24 ชั่วโมงเมื่อวันเสาร์ อยู่ที่ 259,848 ราย เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตที่ เพิ่มขึ้นมากกว่า 7,000 ราย