คุมตัว “ลุงหื่น” ทำแผน! ข่มขืนยายวัย 66

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา นางสวย ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.ท.เจษฎาพร รองทอง พงส.สภ.เมืองศรีสะเกษ ให้ติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดย นางสวย ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ปั่นจักรยานออกมาที่ทุ่งนาของตนเอง ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ และมองเห็นคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และกำลังงมหอยและเก็บดอกบัวอยู่บริเวณริมคลองอีสานเขียว จากนั้นตนได้เดินไปถอนหญ้าที่ขึ้นปกคลุมนาข้าว ไม่ได้สนใจอะไร ซึ่งทำเป็นประจำทุกวัน

จากนั้นชายคนดังกล่าว ได้เดินตามเข้ามาหาพร้อมประชิดตัวตน และได้ใช้มือทั้งสองข้างบีบที่ลำคอพร้อมกับกดตัวลงกับพื้นกลางนาข้าว โดยใช้ลำตัวของคนร้ายทับไว้ พร้อมกับถลกเสื้อและดึงกางเกงของตนออกไปไว้ที่ตรงเข่า จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ใช้กำลังข่มขืน ซึ่งตนได้พยายามดิ้นรนขัดขืน พร้อมกับร้องเรียกให้คนช่วยแต่ก็ไม่มีใครได้ยิน หลังสำเร็จกิจคนร้ายได้รีบใส่เสื้อผ้าลุกขึ้นเดินจากไปที่รถแล้วขี่ จยย.ที่จอดไว้ข้างทาง หลบหนีไปอย่างใจเย็น ตนจึงรีบโทรศัพท์บอกลูกสาวเพื่อแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รวบรวมพยานหลักฐานกระทั่งรู้ตัวคนร้ายและศาลจังหวัดศรีสะเกษ ได้อนุมัติหมายจับ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายศาลดังกล่าว เข้าทำการจับกุมตัว นายนารี ได้ที่บ้านพักใน ต.พยุห์ อ.พยุห์ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้กันกับบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเบื้องต้น นายนารี ผู้ต้องหา ให้การว่า ตนมีภรรยา แต่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ขณะเกิดเหตุยายสวย ได้เดินมาทักขณะที่ตนกำลังงมหอยอยู่ในลำห้วย โดยยายได้บอกว่า ให้เก็บดอกบัวที่อยู่ในน้ำมาให้ยายด้วย ตนจึงได้เก็บเอาดอกบัวที่ยายบอกนำขึ้นมาให้ เมื่อเดินมาถึงยาย รู้สึกเกิดอารมณ์เปลี่ยวจึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

หลังก่อเหตุยอมรับรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อกลับไปถึงบ้านแอบนั่งร้องไห้อยู่คนเดียว กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด ซึ่งตนได้ไปกราบขอโทษยายแล้ว และยายได้สอนตนว่าต่อไปอย่าไปทำอะไรแบบนี้กับใครเขาอีก มันเป็นสิ่งไม่ดี ถ้าเกิดยายเสียชีวิตไป ก็จะเป็นเวรเป็นกรรมกับตนเอง ซึ่งตนจะจำคำสอนของยายตลอดชั่วชีวิต จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป